การวัดอัตราการไหลของน้ำหล่อสมองและไขสันหลังบริเวณท่อน้ำสมองซิลเวียส ด้วยเฟสคอน ทราสของเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุในกลุ่มประชากรปกติ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

Main Article Content

สุภัทธนาวดี ภู่ศรี
กิติมา ธรรมรักษ์
ศุภขจี แสงเรืองอ่อน

Abstract

ความเป็นมา:  เครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ (Magnetic resonance imaging : MRI)เป็นเครื่องมือการตรวจและสร้างภาพกายวิภาคของสมอง ซึ่งเป็นการตรวจที่ไม่ต้องใช้สารทึบรังสี อีกทั้งเป็นการตรวจที่ไม่ลุกล้ำผู้ป่วย ไม่เจ็บปวด และสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง (cerebrospinal fluid : CSF) รวมทั้งวัดอัตราการไหลได้ โดยใช้เฟสคอนทาสของเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุแสดงภาพการไหลเวียนตามจังหวะการเต้นของหัวใจ วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อศึกษาอัตราการไหลของน้ำหล่อสมองและไขสันหลังบริเวณท่อน้ำสมองซิลเวียสด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุในกลุ่มประชากรที่ไม่มีประวัติหรืออาการผิดปกติของระบบประสาทเพื่อเป็นค่ามาตรฐาน วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาวิจัยเชิงพรรณนา ในการตรวจอัตราการไหลของน้ำหล่อสมองและไขสันหลังด้วยใช้เฟสคอนทราสของเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุขนาดความเข้มของสนามแม่เหล็ก 1.5 เทสลา ในกลุ่มประชากรปกติจำนวน 38 คน มีอายุเฉลี่ย 44 ปี ณ แผนกรังสีวินิจฉัย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2556 ถึง 1 พฤศจิกายน 2556 ในบริเวณท่อน้ำสมอง  ซิลเวียสโดยกำหนดจุดในการวัดอัตราการไหลคือ ตำแหน่ง intercollicular sulcus และแสดงภาพการไหลเวียนตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่อ้างอิงจากคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อวิเคราะห์เป็นค่าอัตราการไหลเฉลี่ย ค่าความเร็วเฉลี่ย ค่าความเร็วสูงสุด และค่าปริมาตรของน้ำหล่อสมองแต่ละครั้งที่หัวใจบีบตัว              ผลการศึกษา: จากการศึกษาพบว่าค่าอัตราการไหลเฉลี่ยมีค่าเท่ากับ 0.0030 ± 0.0018 มิลลิลิตรต่อวินาที ค่าความเร็วเฉลี่ยมีค่าเท่ากับ 0.0803 ± 0.0373 เซนติเมตรต่อวินาที ค่าความเร็วสูงสุดมีค่าเท่ากับ 4.35 ± 0.56 เซนติเมตรต่อวินาที และค่าปริมาตรของน้ำหล่อสมองแต่ละครั้งที่หัวใจบีบตัวเท่ากับ     61.55 ± 14.29 ไมโครลิตร ซึ่งพบว่ามีความแตกต่างจากการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้และตุรกีสำหรับค่าอัตราการไหลเฉลี่ยที่มีค่าเท่ากับ 0.0200 ± 0.0125 มิลลิลิตรต่อวินาที และ 0.016 ± 0.007 มิลลิลิตรต่อวินาที ตามลำดับ แต่สำหรับค่าความเร็วสูงสุดมีค่าใกล้เคียงกัน สรุป: จากการศึกษาการตรวจวัดอัตราการไหลของน้ำหล่อสมองและไขสันหลังบริเวณท่อน้ำสมองซิลเวียสด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุในกลุ่มประชากรปกติ ทำให้ได้ค่าอัตราการไหลเฉลี่ย ค่าความเร็วเฉลี่ย ค่าความเร็วสูงสุด และค่าปริมาตรของน้ำหล่อสมองแต่ละครั้งที่หัวใจบีบตัวที่เป็นค่ามาตรฐานของโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

Measurement of cerebrospinal fluid flow at the cerebral aqueduct by use of phase contrast magnetic resonance imaging in the normal human brain at Phramongkutklao hospital.

Background: Magnetic resonance (MR) imaging depicts cerebral tissue without require contrast media in cerebral pathologies and gives detailed information of cerebrospinal fluid (CSF) with CSF flow. Phase-contrast magnetic can display this pulsatory CSF motion non-invasively. Objective: To study magnetic resonance (MR) imaging based quantitative phase contrast cerebrospinal fluid (CSF) velocity imaging in the normal population. Methodology: Descriptive study was conducted, using phase contrast magnetic resonance imaging in thirty-eight healthy volunteers (mean age 44 years) at Department of Radiology, Phramongkutklao hospital during September 1, 2013 – November 1, 2013. The CSF hydrodynamics investigated on 1.5 T MRI. Velocity maps were acquired perpendicular to the cerebral aqueduct at level of the intercollicular sulcus. The pulse sequence was a prospectively triggered cardiac-gated flow, region of interest (ROI) analysis was performed for the CSF hydrodynamics, include mean flow (ml/sec), mean systolic velocity (cm/sec), peak velocity (cm/sec) and stroke volume (mL). Results: The mean flow, mean systolic velocity, peak velocity and stroke volume are measured 0.0030±0.0018 ml/sec, 0.0803±0.0373 cm/sec, 4.35±0.56 cm/sec and 61.55±14.29mL, respectively. The peak velocity, not differ (Korea; 4.08±1.99 cm/sec and Turkey; 5.95±2.48 cm/sec) but mean flow is different from other foreign study (Korea; 0.0200±0.0125 ml/sec and Turkey; 0.016±0.007 ml/sec). Conclusion: Using phase-contrast MRI at aqueduct in healthy volunteers, reveals the mean flow, mean systolic velocity and stroke volume which are standard value of Phramongkutklao hospital.

Article Details

Section
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)