ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ fondaparinux ขนาดต่ำร่วมกับ rivaroxaban และ enoxaparin หลังการผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมทั้งข้อ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
Main Article Content
Abstract
การผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมทั้งข้อ ถือเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูงและนำไปสู่การเกิด ภาวะเส้นเลือดดำอุดตัน (Venous Thromboembolism; VTE) ซึ่งป้องกันด้วยการใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (thromboprophylaxis) งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ fondaparinux ขนาดต่ำร่วมกับ rivaroxaban ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่เปรียบเทียบกับ enoxaparin ที่เป็นมาตรฐานของการรักษา รูปแบบการวิจัยเป็นแบบย้อนหลัง รวบรวมข้อมูลจากแฟ้มเวชระเบียน ในผู้ป่วย 255 ราย แบ่งเป็นกลุ่ม fondaparinux ขนาดต่ำร่วมกับ rivaroxaban 147 ราย และ enoxaparin 108 ราย ประเมินประสิทธิภาพโดยการวินิจฉัยของแพทย์ร่วมกับอาการทางคลินิก และความปลอดภัยโดยการประเมินภาวะเลือดออกและการได้รับเกล็ดเลือดทดแทน ผลการศึกษาไม่พบความแตกต่างของประสิทธิภาพของทั้งสองรูปแบบ อย่างไรก็ตามพบการเกิดเลือดออก 64 ครั้ง แบ่งเป็นกลุ่ม fondaparinux ขนาดต่ำร่วมกับ rivaroxaban 41 ครั้ง (ร้อยละ 64.06) และ enoxaparin 23 ครั้ง (ร้อยละ 35.94) ถึงแม้ว่าผลการศึกษานี้ไม่พบความแตกต่างของประสิทธิภาพระหว่างการใช้ยา เนื่องจากประชากรที่เข้าร่วมการศึกษาน้อย แต่พบแนวโน้มการเกิดเลือดออกในกลุ่ม fondaparinux ขนาดต่ำร่วมกับ rivaroxaban มากกว่า enoxaparin ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมีประโยชน์ต่อการเฝ้าระวังและติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ thromboprophylaxis หลังการผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมทั้งข้อ
Efficacy and safety of low dose of fondaparinux with rivaroxaban and enoxaparin after total knee and total hip replacement surgery, Phramongkutklao hospital
Total Knee Arthroplasty (TKA) and Total Hip Arthroplasty (THA) are a high risk of surgery and lead to Venous Thromboembolism (VTE) that can prevent by using thromboprophylaxis. The purposes of this study were to compare efficacy and safety between low dose of fondaparinux with rivaroxaban (new regimen) and enoxaparin (gold standard) after total knee and hip replacement surgery at Phramongkutklao hospital. We performed a retrospective cohort study from the medical record and collected data from 255 patients. They were divided to 147 patients who received low dose of fondaparinux and rivaroxaban, 108 patients who received enoxaparin. The outcome of study determine by clinical manifestation and bleeding events. The results of this study were found that efficacy between low dose of fondaparinux with rivaroxaban and enoxaparin had no differences between groups. However, bleeding occurred 64 times, low dose of fondaparinux with rivaroxaban and enoxaparin were 41 (64.06%) and 23 times (35.94%), respectively. Although this study did not find differences of efficacy because of small population, low dose of fondaparinux with rivaroxaban are proved to be a higher change of bleeding than enoxaparin. Therefore, this study is useful for the surveillance and monitoring of adverse reactions from thromboprophylaxis after total knee and total hip replacement surgery.