Effect of participation in supporting language development program towards knowledge and self-efficacy of pre-school care giver

Main Article Content

อรุณศรี กัณวเศรษฐ
ดร.พวงทิพย์ ชัยพิบาลสฤษดิ์
สุภาวดี เครือโชติกุล

Abstract

This quasi-experimental study was one group pre-test post-test design. Three objectives were; 1) to compare the knowledge of care giver, 2) to compare the perceived self- efficacy of care giver, and 3) to find out the satisfaction of care giver in participating  the promoting delayed language program for pre-school.  The program was developed according to the concept of Cohen and Uphoff. The 21 purposive sample were volunteer for 5 trainings in the series for 5 weeks. Each training was about 60 minutes. There were 2 sets of measurements; 1) supporting language development program, and 2) measurement for data collection; personal data, test for knowledge, test for perceived self- efficacy, and satisfaction.


The findings revealed the average and standard deviation of knowledge for pre-test at 8.76+2.49 and post-test at 11.57+2.71 (p<0.001). The perceived self-efficacy were increased from 71.57+16.77 to 78.80+13.03 (p=0.13). The satisfaction of the care-giver towards the program was the maximum level (x=4.62). The implication of the study reflects the application of the program for the Division of Developmental and Behavioral, Vajira Hospital.

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

How to Cite
กัณวเศรษฐ อ., ชัยพิบาลสฤษดิ์ ด., & เครือโชติกุล ส. (2018). Effect of participation in supporting language development program towards knowledge and self-efficacy of pre-school care giver. Vajira Nursing Journal, 20(1), 40–53. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/vnj/article/view/138787
Section
research article

References

จอมสุรางค์ โพธิสัตย์. (2559, เมษายน 2). เด็กพัฒนาการภาษาล่าช้าหรือภาวะพูดช้า. สืบค้นจาก http://haamor.com/th/เด็กพัฒนาการภาษาล่าช้าหรือภาวะพูดช้า
จุฬาภรณ์ สมใจ. (2546). ภาวะซึมเศร้าของบิดามารดาเด็กพัฒนาการล่าช้า. (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
ทศพร คำผลศิริ, ศิริรัตน์ ปานอุทัย และลินลง ธิบาล. (2553). รายงานการวิจัยการพัฒนารูปแบบการ ดูแลระยะยาวแบบบูรณาการ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนสำหรับผู้สูงอายุที่พึ่งพาคนเอง ไม่ได้. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นพวรรณ บัวทอง. (2549). อุปสรรคของผู้ดูแลในการปฏิบัติตามโปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่มี พัฒนาการช้าในสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่. (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
นิตยา คชภักดี. (2551). พัฒนาการเด็ก. ใน นิชรา เรืองดารกานนท์, ชาคริยา ธีรเนตร, รวิวรรณ รุ่งไพรวัลย์, ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย (บรรณาธิการ). ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก. (น.359-364). กรุงเทพฯ: บริษัท โฮลิสติก พับลิชชิ่ง จำกัด.
นิรชา เรื่องดารกานนท์. (2554). ปัจจัยที่กระทบต่อพัฒนาการของเด็ก. ใน ทิพวรรณ หรรษาคุณาชัย และคณะ (บรรณาธิการ), ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กสำหรับเวชปฏิบัติทั่วไป. กรุงเทพฯ: ชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก.
ประภัสสร ปรี่เอี่ยม และธรรมนูญ รวีผ่อง. (2554). รายงานการวิจัยเรื่องผลการส่งเสริมพัฒนาการ กล้ามเนื้อมัดเล็กสำหรับเด็กพัฒนาการช้าโดยพ่อแม่ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษใน จังหวัดมหาสารคาม บทบาทของพ่อแม่เยี่ยงครู. มหาสารคาม: สถาบันราชภัฎมหาสารคาม.
มูลิธิพัฒนาคนพิการไทย. (2557, มกราคม 31). เด็กไทยไอคิวต่ำฉลาดน้อย สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม “การลงทุนกับคน”. สืบค้นจาก
http://www.tddf.or.th/research/detail.php?contentid=0113&postid=0008325¤tpage=3
ยุพา สัมฤทธิ์มีผล. (2535). ผลกระทบของวัยรุ่นปัญญาอ่อนต่อพ่อแม่. (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, จิตเวชศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
รสริน เอี่ยมยิ่งพานิช. (2539). ภาระในการดูแลและความผาสุกในครอบครัวของมารดาที่มีบุตร ปัญญาอ่อน. (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพยาบาลเด็ก, มหาวิทยาลัยมหิดล).
รังสินี ผลาภิรมย์, ทัศนี ประสบกิตติคุณ และ กรรณิการ์วิจิตรสุคนธ์. (2553). ผลของ โปรแกรมการสร้าง พลังใจในมารดาต่อการรับรู้สมรรถนะของตนเองในการดูแลเด็กพัฒนาการล่าช้า. วารสาร พยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 28(4), 68-75.
วาสนา เกษมสุข. (2545). ความผาสุกของผู้ดูแลเด็กพัฒนาการล่าช้าที่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ภาคเหนือ. (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาสุขภาพจิตแลการพยาบาลจิตเวช, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
วารีรัตน์ ถาน้อย. (2545). การเจ็บป่วยเรื้อรังแนวทางการช่วยเหลือครอบครัว. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 16(2), 3-16.
สกาวรัตน์ เทพรักษ์, ภภัสสร มุกดาเกษม, จรรยา สืบนุช และจารุณี จตุรพรเพิ่ม. (2557). การศึกษาด้านการเลี้ยงดูของผู้ปกครองและการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการส่งเสริมการเจริญเติบและพัฒนาการเด็กปฐมวัยในเขตสาธรณสุขที่ 4 และ5. งานอนามัยแม่และเด็ก กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 4 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นจาก
http://hpc4.go.th/rcenter//_fulltext/20140331103024_1551/20140403134122_548.pdf
สุภาวดี ชุ่มจิตต์. (2547). การใช้โปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อภาระการดูแลเด็กออทิสติกของบิดามารดา โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์. (พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2558). สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2558. นนทบุรี: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
Cohen, J. M. & Uphoff, N. T. (1981). Rural development participation: Concepts and measure for project design implementation and evaluation. The Rural Development Committee Center International Studies, Cornell University.
Dunst, C.J. & Triette, C.M. (1996). Empowerment, effective helpgiving practices and family- Centered care. Pediatr Nurs, 22(2), 334-337.
Plant, K.M., & Sanders, M.R. (2007). Predictors of care-givers stress in families of preschool-aged children with developmental disabilities. Journal of Intellectual Disability Research, 51(2), 109-124.
Werker, J.F. & Desjardins, R.N. (2004). Is the integration of head and seen speck mandatory for infants? Developmental Psychobiology, 45(5), 187–203.