ความตระหนักในคุณค่าตนเองของเยาวชน ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาเชิงบรรยายครั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลต่อความตระหนักในคุณค่าตนเองและหา ความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นจริงเกี่ยวกับตนเองและความมุ่งหวังในอนาคตกับความตระหนักในคุณค่าตนเองของเยาวชนในสถานสงเคราะห์ กลุ่มตัวอย่างคือ เยาวชนในสถานสงเคราะห์ฯ ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไปและอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่ายโดยวิธีจับฉลาก จำนวน 162 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติสถิติทดสอบเอฟเทสท์ ทีเทสท์ และสถิติสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการศึกษา พบว่า เยาวชนในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี มีความตระหนักในคุณค่าตนเองระดับมาก (= 2.93 S.D. = .252) มีความคิดเห็นต่อความเป็นจริงเกี่ยวกับตนเองในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 2.40, S.D. = .585) และมีความคิดเห็นต่อความมุ่งหวังในอนาคตของตนเอง ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 2.62, S.D. = .544) การวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคลกับความตระหนักในคุณค่าตนเอง พบว่า เยาวชนที่มีระดับการศึกษา และการมีบุคคลที่ยังมีการติดต่อสื่อสารกันต่างกัน มีความตระหนักในคุณค่าตนเองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 0.01 ส่วนผลการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พบว่า ความเป็นจริงเกี่ยวกับตนเองและความมุ่งหวังในอนาคตของตนเอง
มีความสัมพันธ์กับความตระหนักในคุณค่าตนเอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 0.01 โดยความตระหนักในคุณค่าตนเองเป็นสิ่งที่ปกป้องบุคคลจากปัญหาชีวิตต่างๆ ซึ่งบุคคลที่มีความตระหนักในคุณค่าตนเองสูง จะเป็นที่ยอมรับในสังคม มีความรับผิดชอบ มากกว่าบุคคลที่มีความตระหนักในคุณค่าตนเองต่ำ การศึกษาครั้งนี้จึงสนใจที่จะศึกษา เพื่อทราบว่าเด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์มีความตระหนักในคุณค่าตนเองหรือไม่
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวชิรสารการพยาบาลถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวชิรสารการพยาบาล ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวชิรสารการพยาบาล หากบุคคลใดหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวชิรสารการพยาบาลก่อนเท่านั้น
References
เกียรติวรรณ อมาตยกุล. (2540). พัฒนาการของการเห็นคุณค่าในตนเอง. (วิทยานิพนธ์การศึกษา ดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร).
ฐปนีย์ ตั้งจิตภักดีสกุล. (2544). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเห็นคุณค่าในตนเองและความรู้สึกสิ้นหวังในเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง. (วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาคลินิก, มหาวิทยาลัยมหิดล).
ฐิฎิรักษ์วิเศษศิลปานนท์. (2537). การปรับตัวทางสังคมของเด็กกำพร้าในสถานสงเคราะห์:ศึกษาเฉพาะกรณีเด็กหญิงภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดอุดรธานี. (วิทยานิพนธ์สังคมศาสตรมหาบัณฑิตสาขาจิตวิทยาสุขภาพ,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
มัลลิกา คณานุรักษ์. (2547). จิตวิทยาการสื่อสารของมนุษย์. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์
รัตนา ไกรสีหนาท. (2534). การศึกษาเปรียบเทียบอัตมโนทัศน์ สุขภาพจิต และความพึงพอใจ ในงานของพยาบาลวิชาชีพกับพยาบาลเทคนิค.กรุงเทพฯ. (ปริญญานิพนธ์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร).
สุธาสินี เลิศวัชระสารกุล. (2557). เรียนต่อกันเถอะเพื่ออนาคตที่ดีกว่า. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อวันที่ 21
มกราคม 2559 ได้จาก http://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/latest-news/postgraduates-get-better-jobs/
สุรพงษ์ชูเดช. (2534). ความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยกับจิตลักษณะที่สำคัญของนิสิต. (วิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร).
สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. (2553). สถานการณ์ครอบครัวไทย อย่าปล่อยให้กลายเป็นวิกฤตสังคม.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานปลัดกระทรวง
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. 1(3): 1-3.
ศิริภรณ์ ทองทูลทัศน์. (2542). การเรียนการสอนการเข้าใจมนุษย์. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อังคณา เผ่าชูศักดิ์. (2554). การเห็นคุณค่าในตนเองของเยาวชนมูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก จังหวัดเชียงราย. (บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
อรัญญา ตุ้ยคัมภีร์. (2536). ผลของกลุ่มจิตบำบัดแบบโลกอสต่อการเพิ่มความมุ่งหวังในชีวิตของหญิงในสถานสงเคราะห์หญิงบ้านเกร็ดตระการที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต คณะครุศาสตร์ สาขาจิตวิทยา,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
Coopersmith, Stanley. (1981). The Antecedents of Self-Esteem. (2nded.). California:Consulting Psychologists Press,Tnc.
Roy, Sr. C., & Andrews, H.A. (1999). The Roy adaptation model. (2nded.). Stamford, CT: Appleton & Lange.
Stephen, P.R. and A.D.C. David. (1997). Fundamental of Management. New Jercey: Prentice-Hall.
Timothy J. Owens, Sheldon Stryker and Norman Goodman. (2006). Extending Self- Esteem Theoryand Research Sociological and Psychological Currents. New York: Cambridge University Press.
Zeigler-Hill, V. (2013). Self-Esteem. New York: Psychology Press.