การดูแลผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า: บทบาทของพยาบาลวิชาชีพแผนกฉุกเฉิน
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
โรคพิษสุนัขบ้ายังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และการดูแลผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งของพยาบาลวิชาชีพแผนกฉุกเฉิน จุดประสงค์ของบทความเพื่อนำเสนอบทบาทของพยาบาลวิชาชีพในการดูแลผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า ตามกระบวนการพยาบาล ตั้งแต่การประเมินคัดแยกผู้ป่วยตามความรุนแรงด้วยการซักประวัติ การล้างและทำความสะอาดแผล การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และโรคพิษสุนัขบ้า การให้คำแนะนำในการดูแลแผล การฉีดวัคซีนให้ครบ และเรื่องสิทธิการรักษา เพื่อการบริการที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นและปลอดภัยให้กับผู้รับบริการ
คำสำคัญ : โรคพิษสุนัขบ้า บทบาทพยาบาล แผนกฉุกเฉิน
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวชิรสารการพยาบาลถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวชิรสารการพยาบาล ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวชิรสารการพยาบาล หากบุคคลใดหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวชิรสารการพยาบาลก่อนเท่านั้น
References
ไกรศร จันทร์นฤมิตร, อรพรรณ โตสิงห์, ปรางทิพย์ ฉายพุทธ และทิพา ต่อสกุลแก้ว. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา อายุ โรคร่วม กับผลลัพธ์การจำหน่ายออกจากห้องฉุกเฉิน ในผู้ป่วยฉุกเฉินผู้ใหญ่. Thai Journal of Nursing Council, 31(2), 123-131. doi:Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJONC/article/view/57899
กระทรวงสาธารณสุข,กรมควบคุมโรค,สำนักระบาดวิทยา. (2561). สถิติโรคพิษสุนัขบ้า. ค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2561, เข้าถึงได้จาก http://164.115.32.57/r36/uploads/document/59dbe3a8c9e07.pdf
กระทรวงสาธารณสุข,กรมควบคุมโรค,สำนักระบาดวิทยา. (2562). แผนปฏิบัติการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า. ค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2562, เข้าถึงได้จาก file:///C:/Users/leno/Downloads/3_%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99rabies6264__22%E0%B8%9E%E0%B8%8461_.pdf
กลุ่มโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน. (2559). แนวทางเวชปฏิบัติโรคพิษสุนัขบ้าและคำถามที่พบบ่อย. สำนักงานพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์. กรุงเทพมหานคร.
จารุนันท์ พิชัยรัตน์. (2544). บทบาทของพยาบาลวิชาชีพในการพิทักษ์สิทธิผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดตรัง. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ตึกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน. (2562). Service Profile Emergency Room. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช.
สุขุมาล กาฬเนตร, อารยา ประเสริฐชัย และวรางคณา จันทร์คง. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมารับบริการวัคซีนพิษสุนัขบ้าหลังสัมผัสโรค อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 21(2), 34-47.
อรนันท์ หาญยุทธ. (2557). กระบวนการพยาบาลและการนำไปใช้. วารสารพยาบาลทหารบก, 15(137-143).
อรพรรณ แก้วสวย, กุสุมา คุววัฒนสัมฤทธิ์ และศุภร วงศ์วทัญญู. (2560). การศึกษาความตรงและความเที่ยงของเครื่องมือวัดการรับรู้สติของผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง (โฟร์สกอร์) โดยพยาบาลหอผู้ป่วยวิกฤต. Rama Nurse J, 23(3), 298-313.
อรพิรุฬห์ สการะเศรณี. (2559). สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์ประเทศไทย ปีพ.ศ. 2558 (Situation of Rabies in human and animal, Thailand, 2015). สำนักระบาดวิทยา
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 47(16).
Albertini AA, Ruigrok R, & Blondel D. (2011). Rabies Virus Transcription and Replication. In Adv Virus Res (pp. 1-22).
Brekke, I. J., Puntervoll, L. H., Pedersen, P. B., Kellett, J., & Brabrand, M. (2019). The value of vital sign trends in predicting and monitoring clinical deterioration: A systematic review. PLoS One, 14(1), e0210875. doi:10.1371/journal.pone.0210875
Gozdas, H. T., & Hatipoglu, M. (2015). Persistent mental symptoms and rabies. Shanghai Arch Psychiatry, 27(5), 326-327. doi:10.11919/j.issn.1002-0829.215049
Hankins, D. G., & Rosekrans, J. A. (2004). Overview, Prevention, and Treatment of Rabies. Mayo Clinic Proceedings, 79(5), 671-676. doi:10.4065/79.5.671
Jackson AC. (2010). Rabies pathogenesis update. In R. P. Saude (Ed.), (pp. 169-172).
Liu, Q., Wang, X., Liu, B., Gong, Y., Mkandawire, N., Li, W., . . . Shi, J. (2017). Improper wound treatment and delay of rabies post-exposure prophylaxis of animal bite victims in China: Prevalence and determinants. PLoS Neglected Tropical Diseases, 11(7), e0005663.
Love, R. A., Murphy, J. A., Lietz, T. E., & Jordan, K. S. (2012). The effectiveness of a provider in triage in the emergency department: a quality improvement initiative to improve patient flow. Advanced emergency nursing journal, 34(1), 65-74.
Madhusudana, S. N., Subha, S., Thankappan, U., & Ashwin, Y. B. (2012). Evaluation of a direct rapid immunohistochemical test (dRIT) for rapid diagnosis of rabies in animals and humans. Virologica Sinica, 27(5), 299-302. doi:10.1007/s12250-012-3265-6
Pleasure, S. J., & Fischbein, N. J. (2000). Correlation of Clinical and Neuroimaging Findings in a Case of Rabies Encephalitis. Archives of Neurology, 57(12), 1765-1769. doi:10.1001/archneur.57.12.1765
Salomão, C., Nacima, A., Cuamba, L., Gujral, L., Amiel, O., Baltazar, C., . . . Gudo, E. S. (2017). Epidemiology, clinical features and risk factors for human rabies and animal bites during an outbreak of rabies in Maputo and Matola cities, Mozambique, 2014: Implications for public health interventions for rabies control. PLoS Neglected Tropical Diseases, 11(7), e0005787.
Soler-Rangel, S., Jiménez-Restrepo, N., Nariño, D., & Rosselli, D. (2020). Rabies encephalitis and extra-neural manifestations in a patient bitten by a domestic cat. Revista do Instituto de Medicina Tropical de São Paulo, 62(1).
Weihe, E., Bette, M., Preuss, M. A. R., Faber, M., Schäfer, M. K. H., Rehnelt, J., Dietzschold, B. (2008). Role of virus-induced neuropeptides in the brain in the pathogenesis of rabies. Developments in biologicals, 131(1), 73-81.
WHO. (2020). Rabies. Retrieved from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/rabies. Update 21 April 2020.
Zhu, S., & Guo, C. (2016). Rabies Control and Treatment: From Prophylaxis to Strategies with Curative Potential. Viruses, 8(11), 279.