ประเด็นปัญหาและบทบาทพยาบาลในการดูแลญาติของผู้ป่วยที่อยู่ในระยะวิกฤตที่อาศัยในสังคมเมือง

Main Article Content

นิรมนต์ เหลาสุภาพ
นพัตธร พฤกษาอนันตกาล
ปานดวงใจ ไทยดำรงค์เดช

บทคัดย่อ

การเจ็บป่วยเป็นภาวะวิกฤตที่คุกคามต่อชีวิต การเจ็บป่วยนอกจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ป่วยแล้วยังส่งผลกระทบต่อญาติของผู้ป่วยอีกด้วย การใช้ชีวิตของคนในสังคมเมือง โดยเฉพาะเมืองที่มีปัญหาการจราจรติดขัดอาจสร้างปัญหาแก่ญาติของผู้ป่วย เช่น การไม่สามารถเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลได้ทันเวลา อาจทำให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยลดลง การได้รับข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ และขาดแรงสนับสนุนทางสังคม ญาติของผู้ป่วยที่อยู่ในระยะวิกฤตอาจเกิดความเครียดได้ ดังนั้นพยาบาลจึงควรเข้าใจในลักษณะของสังคมเมือง และส่งเสริมให้ญาติที่อาศัยในบริบทสังคมเมืองมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น เช่น ผ่อนผันเวลาในการเข้าเยี่ยมของญาติ การให้ข้อมูลของผู้ป่วยทางโทรศัพท์แก่ญาติ และการประสานงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนให้ญาติของผู้ป่วยที่อยู่ในระยะวิกฤตที่อยู่ในสังคมเมืองได้ปรับตัวและเผชิญปัญหาจนผ่านพ้นภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นไปได้

Article Details

How to Cite
เหลาสุภาพ น., พฤกษาอนันตกาล น., & ไทยดำรงค์เดช ป. (2019). ประเด็นปัญหาและบทบาทพยาบาลในการดูแลญาติของผู้ป่วยที่อยู่ในระยะวิกฤตที่อาศัยในสังคมเมือง. วชิรสารการพยาบาล, 21(2), 100–109. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/vnj/article/view/229668
บท
บทความวิชาการ

References

จุรานุช จอมโคกสูง ชนัดดา แนบเกษร และจิณห์จุฑา ชัยเสนา ดาลลาส. (2561). ผลของจิตบำบัดแบบประคับประคองรายบุคคลต่อความเครียดของสมาชิกครอบครัวผู้ป่วยวิกฤตที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(ฉบับพิเศษ), 305-315.

ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2561). ผลวิจัยเผยคนกรุงเครียดกว่าคนต่างจังหวัด 2 เท่า. สืบค้นจาก BLT Bangkok https://www.bltbangkok.com

นิรมนต์ เหลาสุภาพ. (2556). ผลของโปรแกรมการจัดการความเครียดสำหรับญาติผู้ป่วยวิกฤตต่อ ความเครียดของญาติ. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหิดล.

วิจิตรา กุสุมภ์. (2560). การพยาบาลผู้ป่วยภาวะวิกฤต: แบบองค์รวม (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: สหประชาพานิชย์.

วรวุฒิ ขาวทอง อัจฉรา สุคนธสรรพ์ และสุภารัตน์ วังศรีคูณ. (2562). ประสิทธิผลของการดูแลผู้ป่วยวิกฤตเฉียบพลันตามแนวคิดครอบครัวเป็นศูนย์กลางของการดูแลในหน่วยงานอุบัติเหตุฉุกเฉิน. พยาบาลสาร, 46(2), 176-187.

ศรญา ยังเจริญ และวาสินี วิเศษฤทธิ์. (2558). ผลของการใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ต่อคุณภาพการดูแลตามการรับรู้ของญาติผู้ป่วยวิกฤตและความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพ. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก, 26(2), 53-67.

แสงอรุณ ใจวงศ์ผาบ ประทุม สร้อยวงค์ สุดารัตน์ สิทธิสมบัติ และมยุรี สำราญญาติ. (2560). สุขภาวะทาง จิตวิญญาณของญาติผู้ป่วยวิกฤต. พยาบาลสาร, 44(4), 36-48.

โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์ อัจจนา ลํ่าซํา และภูมิใจ ตั้งสวัสดิรัตน์. (2562). มองวิถีเมืองและชนบทกับบทบาทหญิงชายต่อหนี้ครัวเรือนไทยผ่าน Big Data ของเครดิตบูโร. สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วยอึ๊งภากรณ์. สืบค้นจาก https://www.pier.or.th

อิสรีย์ ศรีศุภโอฬาร และนรลักษณ์ เอื้อกิจ. (2559). ผลของโปรแกรมการตอบสนองความต้องการของครอบครัวผู้ป่วยวิกฤตต่อความวิตกกังวลของสมาชิกครอบครัวผู้ป่วยวิกฤต. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 36(3), 71-93.

ฮากีม ผูหาดา. (2557). วิถีชีวิตคนเมืองในประเทศไทย: แนวโน้มใหม่. แผนงานนโยบายสาธารณสุขเพื่อการพัฒนาอนาคตของเมือง ศูนย์ศึกษามหานครและเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต. สืบค้นจาก https://www.slideshare.net/FURD_RSU/the-new-trend

Aguilera, D. C. (1998). Crisis intervention: Theory and methodology (8th ed). California: St. Louis: C. v. Mosby.

Kanmani, T. R., Thimmappur, R. M., Birudu, R., Reddy, K. N., & Raj, P. (2019). Burden and Psychological Distress of Intensive Care Unit Cargivers of Traumatic Brain injury Patients. Indian Journal of Critical Care Medicine. 23(5), 220-223.

Lazarus, R., & Folkman, S. (1984). Stress, appraisal, and coping. New York: Springer Publishing. Ministry of Health Services British Columbia. (2001). Peer support manual. British Columbia: Columbia.

Swanson, K. M. (1991). Empirical development of a middle rang theory of caring. Nursing Research, 40(3), 161-167.

Wintermann, G., Petrowski, K., Weidner, K., Straub, B., & Rosendahl, J. (2019). Impact of post-traumatic stress symptoms on the health-related quality of life in a cohort study with chronically critically ill patients and their partners: age matters. BioMed Central Journals, 23(39),1-10.