ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติของบุคลากรทางการแพทย์ ต่อการใช้กัญชาทางการแพทย์
คำสำคัญ:
ทัศนคติ, กัญชาทางการแพทย์, บุคลากรทางการแพทย์, ทัศนคติ, กัญชาทางการแพทย์ , บุคลากรทางการแพทย์บทคัดย่อ
ภูมิหลัง: แพทย์บางท่านไม่เห็นด้วยกับการใช้ยากัญชาซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเข้าถึงกัญชาของผู้ป่วย สอดคล้องกับผลการสำรวจในต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่าแพทย์ประจำครอบครัวในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ ไม่เชื่อมั่นในประโยชน์ด้านสุขภาพของกัญชาและเชื่อว่าการใช้กัญชาจะมีความเสี่ยวัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาทัศนคติการใช้กัญชาของบุคลากรทางการแพทย์ และศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับทัศนคติการใช้กัญชาของบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการในคลินิกกัญชาทางการแพทย์จังหวัดบุรีรัมย์วิธีการ: การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง (cross - sectional study) ในการศึกษาครั้งนี้ได้แบบ สำรวจตอบกลับ 132 ราย จากบุคลากรทั้งหมด 138 คน (ร้อยละ 95.6) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน โดยใช้ chisquare test ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันผล: ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิงร้อยละ 66.7 มีอายุอยู่ระหว่าง 20-30 ปีร้อยละ 30.3 ระดับการศึกษาขั้นสูงสุดปริญญาตรีร้อยละ 84.8 ตำแหน่งเภสัชกรร้อยละ 28.8 ประสบการณ์ในการทำงาน 10 ปีขึ้นไปร้อยละ 47.7 โดยระดับทัศนคติของกลุ่มตัวอย่างอยู่ในระดับมากร้อยละ 80.3 โดยปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน และประสบการณ์ในการทำงาน ไม่มีความสัมพันธ์ต่อระดับทัศนคติในการใช้กัญชาของบุคลากรทางการแพทย์ และทัศนคติในการใช้กัญชามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปัจจัยด้านคุณประโยชน์และโทษของกัญชา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.01) โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ (r=0.326) มี ความสัมพันธ์เชิงบวกกับปัจจัยด้านความวิตกกังวล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.01) โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปาน กลาง (r=0.452) และมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปัจจัยด้านข้อมูล ข่าวสาร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) โดยมีความ สัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ (r=0.218)สรุป: หน่วยงานควรนาผลการ วิจัยไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนงานเพื่อให้สอดคล้องกับทัศนคติในการใช้กัญชาของบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ตนเอง
เอกสารอ้างอิง
Narcotics Control Division Food and Drug Administration.
Notification of the Ministry of Public Health Re: Specifying the names of narcotics of category V (No. 2), B.E. (Announced in the Government Gazette on 2019 August 30). [internet]. [cited 2019 October 10] . Available from: https://mnfda.fda.moph. go.th/narcotic/?p=3984
Narcotics Control Division Food and Drug Administration.
Guidelines for obtaining permission to sell narcotics of category V, only marijuana for the treatment of patients (In the case of modern medicine); 2019.
Medical Technology Research and Evaluation Institute, Department of Medical Services. Medical marijuana use advice (Revised Edition No. 3/2020). Q-Cumber (Thailand) Co., Ltd.; 2020.
Medical Marijuana Publicity Steering Committee Ministry of Health. cannabis clinic.[internet]. [cited 2020 March 10]. Available from: https://www.medcannabis.go.th/
Abhisit C, et al. Factors associated with opinions of internists and residents in a hospital regarding the uses of cannabis for medical purposes. [Bachelor of Medicine]. Khon Kaen. Khon Kaen University;2019.
Schermerhorn, J. R. Management (7th ed). New York: John Wiley & Sons.2000.
Saijanket P, Nojan P, Meekay N, Suknarin R. Knowledge and Attitudes about Medical Cannabis among People in Phitsanulok Province. J Thai Trad Alt Med 2020;18:595-603.
Ratchadaporn U, Passakorn O, Soontree O. Knowledge and Attitude towards Medicinal Cannabis of People at Tha-Rae Sub-district, Mueang District, Sakonnakhon Province. Public Health Policy & Law Journal 2021;7:70-85.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสารกรมการแพทย์