ผลของการใช้แนวทางปฏิบัติในการป้องกันการเกิดพลัดตกหกล้ม ในหอผู้ป่วยสามัญหญิง 1 โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องผลของการใช้แนวทางปฏิบัติในการป้องกันการเกิดพลัดตกหกล้มในหอผู้ป่วยสามัญหญิง 1 โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี พ.ศ. 2560 นี้เป็นการวิจัยแบบปฏิบัติการมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแนวทางการประเมินภาวะเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม และศึกษาผลการใช้แบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยหญิงทุกรายที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยสามัญหญิง 1 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน 2560 จำนวน 83 ราย และพยาบาลวิชาชีพ ในหอผู้ป่วยสามัญหญิง 1 จำนวน 8 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบประเมินและเฝ้าระวังความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั่วไป ประเภทการรักษาปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดการพลัดตกหกล้ม แบบนิเทศการปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการเกิดพลัดตกหกล้ม และแบบสอบถามความพึงพอใจของพยาบาลในการใช้แบบประเมิน ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity Index) เท่ากับ 0.97 และมีค่าความสอดคล้องของเครื่องมือจากการสังเกต ร้อยละ 85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดพลัดตกหกล้มที่มารักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยสามัญหญิง 1 มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุด ร้อยละ 43.4 รองลงมา ผู้ป่วยที่มาพักรักษาพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยมาให้ยาเคมีบำบัด ร้อยละ 43.4 จำนวนผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงตามแนวทางการประเมินภาวะเสี่ยงมีจำนวน 27 ราย คิดเป็นร้อยละ 32.53 และผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะเสี่ยงตามแนวทางการประเมินมีจำนวน 56 ราย คิดเป็นร้อยละ 67.47 ตามลำดับ การปฏิบัติตามตามแนวทางการป้องกันการเกิดพลัดตกหกล้มของพยาบาลวิชาชีพโดยรวมมีการปฏิบัติตามแนวทาง ร้อยละ 95.00 ไม่ปฏิบัติ ร้อยละ 5.00 ตามลำดับ ความพึงพอใจโดยรวมของพยาบาลวิชาชีพต่อการปฏิบัติตามตามแนวทางการป้องกันการเกิดพลัดตกหกล้ม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าพยาบาลวิชาชีพมีความพึงพอใจข้อที่ 1, 3, 5, 8 และข้อที่ 9 สูงสุด ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละโดยรวมทั้งหมด 97.50จากการค้นพบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การให้ความรู้ การสร้างความตระหนักในการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่างๆ การนิเทศติดตามการปฏิบัติตามแนวทางการเฝ้าระวังของพยาบาลอย่างสม่ำเสมอและมีการประเมินผล ติดตามอุบัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุบัติการณ์การเกิดพลัดตกหกล้มลดลงได้ และควรมีการนำแนวทางดังกล่าวไปประเมินในมิติอื่นๆ ตามภาระงานต่อไป