ผลและความปลอดภัยของยาน้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้นสูตร THC 1.7% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่มารับบริการที่คลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
คำสำคัญ:
ยาน้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้น, มะเร็งระยะท้าย, ประคับประคองบทคัดย่อ
ภูมิหลัง: ยากัญชายังมีข้อมูลประสิทธิผลและความปลอดภัย ไม่เพียงพอที่สนับสนุนให้เกิดการใช้อย่างเหมาะสมในระบบสุขภาพวัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลและความปลอดภัยของยาน้ำมันกัญชา หยอดใต้ลิ้นสูตร THC 1.7% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายวิธีการ: การ ศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนของผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย ที่มารับบริการ ณ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมาติดตามผลการรักษาที่คลินิกกัญชาทางการแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง จำนวน 103 รายผล: ในการติดตามผู้ป่วย 6 ครั้ง โดยการ ติดตามอาการแต่ละครั้ง ห่างกันประมาณ 1 เดือน ยาน้ำมันกัญชา หยอดใต้ลิ้นสูตร THC 1.7% สามารถบรรเทาอาการปวด เบื่อ อาหาร นอนไม่หลับ วิตกกังวล ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่การ ติดตามผลครั้งที่ 1 จนถึงการติดตามผลครั้งสุดท้าย และมีแนวโน้ม เพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโดยมีนัยสำคัญในสามเดือนสุดท้าย โดย ค่ามัธยฐานของคะแนนอรรถประโยชน์ของแบบสอบถาม EQ-5D-5L แรกรับเท่ากับ 0.767 เพิ่มเป็น 0.928 ในการติดตามครั้งที่ 6 และ มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ร้อยละ 30.10 ซึ่งจัดการได้เป็น ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยเพียง 11 รายที่มาติดตามครบจนถึง ครั้งที่ 6 คิดเป็นอัตราการสูญหายจากการติดตาม (dropout rate) 77.3%สรุป: ยาน้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้นสูตร THC 1.7% มีผลช่วย ให้ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและปลอดภัย แต่ ยังจำเป็นต้องศึกษาในผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
The Narcotics Act (No. 7) B.E. 2562.[Internet].2019 [cited 2020 Dec 13]. Available from:http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/019/T_0001.PDF
Ministry of Public Health, Thailand. Medical cannabis listed in service plan 20.[Internet].2019 [cited 2020 Dec 13]. Available form: http://www.medcannabis.go.th/
Department of medical science. Guidance on Cannabis for Medical Use. Eds 3. Nonthaburi: Ministry of Public Health; 2020.
Medical cannabis service plan committee. Guidance on medical cannabis services, integrative clinic; western and Thai traditional medicine in health settings under Permanent secretary office.Nonthaburi: Health Administration Division; 2019.
Department of medical science. Counseling guidance on medical cannabis counseling. use. Nonthaburi:Ministry of Public Health;2020.
Bar-Lev Schleider L, Mechoulam R, Lederman V, Hilou M,Lencovsky O, Betzalel O, et al. Prospective analysis of safety and efficacy of medical cannabis in large unselected population of patients with cancer. Eur J Intern Med 2018;49:37-43.
Johnson JR, Burnell-Nugent M, Lossignol D, Ganae-Motan ED,Potts R, Fallon MT. Multicenter, double-blind,randomized,placebo-controlled, parallel-group study of the efficacy, safety,and tolerability of THC:CBD extract and THC extract in patients with intractable cancer-related pain. J Pain Symptom Manage 2010; 39:167-79.
Nelson K, Walsh D, Deeter P, Sheehan F. A phase II study of delta-9-tetrahydrocannabinol for appetite stimulation in cancer-associated anorexia. J Palliat Care 1994;10(1):14-8. PMID:8035251.
Cyr C, Arboleda MF, Aggarwal SK, Balneaves LG, Daeninck P,Néron A, et al. Cannabis in palliative care: current challenges and practical recommendations. Ann Palliat Med 2018; 7:463-477.
Boehnke KF, Litinas E, Clauw DJ. Medical Cannabis Use Is Associated With Decreased Opiate Medication Use in a Retrospective Cross-Sectional Survey of Patients With Chronic Pain. J Pain 2016; 17:739-44.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความและข้อคิดเห็นต่างๆ เป็นของผู้เขียนบทความ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการหรือของวารสารกรมการแพทย์
