ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้บ่อยของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ไม่ใช่สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผู้แต่ง

  • วรุณรัตน์ สุกาญจนาเศรษฐ์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • พัชญา คชศิริพงศ์ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

คำสำคัญ:

ยาสามัญประจำบ้าน, ความรู้, นักศึกษาระดับปริญญาตรี

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง: ยาสามัญประจำบ้านเป็นยาที่ขายได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน จึงสามารถหาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อหรือช่องทางออนไลน์ การศึกษาก่อนหน้าพบว่าประชากรไทยบางส่วนยังมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ยาเหล่านี้ไม่ถูกต้อง  วัตถุประสงค์: เพื่อสำรวจความรู้ในการใช้ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันที่มีการใช้บ่อย  วิธีการ: เป็นงานวิจัยเชิงสำรวจภาคตัดขวางในนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตที่ไม่ใช่สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ ซึ่งมี 2 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปและแบบทดสอบความรู้ในด้านข้อบ่งใช้และด้านวิธีใช้ของยา การเก็บข้อมูลโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างในระหว่างวันที่ 31 มกราคม 2566 ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2566  ผล: จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 297 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพศหญิง มีค่ามัธยฐานของอายุ 19 ปี (พิสัยระหว่างควอไทล์ 19-20 ปี) ที่กำลังศึกษาในสายมนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์ ผลการทดสอบความรู้จากคะแนนเต็ม 21 คะแนน กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้เท่ากับ 12±3.4 คะแนน โดยประเด็นด้านข้อบ่งใช้ที่มักเข้าใจผิด ได้แก่ สามารถใช้เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่สูญเสียเหงื่อหรือออกกำลังกายทดแทน oral rehydration salts (ORS) ได้ รองลงมาคือสามารถใช้แอลกอฮอล์กับแผลสดได้ ในด้านวิธีใช้ที่มักเข้าใจผิด ได้แก่ ห้ามใช้โพวิโดน-ไอโอดีนทาบนแผลเปิด รองลงมาคือการปรับขนาดยาพาราเซตามอลตามน้ำหนักตัว แหล่งที่มาของความรู้ส่วนใหญ่ได้มาจากครอบครัว รองลงมาคือการเรียนในระดับมัธยมศึกษา ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคือ ชั้นปีที่ศึกษา ภูมิภาคที่จบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย และสายวิชาที่เรียน สรุป: ฉลากและการโฆษณาเครื่องดื่มเกลือแร่ควรมีความชัดเจนในด้านข้อบ่งใช้ หลักสูตรการสอนในระดับมหาวิทยาลัยควรบรรจุเรื่องยาสามัญประจำบ้านและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้นักศึกษาทุกสาขาวิชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มการให้ความรู้ผ่านสื่อสาธารณะ เพื่อให้เกิดความรู้พื้นฐานที่ถูกต้องในการใช้ยา

เอกสารอ้างอิง

The Secretariat of the Cabinet. Drug Acts B.E.2510 (1967). [internet] [cited 2023 Apr 5]. Available from: chrome-extension://efaidnbmnnnibpcajpcglclefindmkaj/https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2510/A/101/7.PDF

The Secretariat of the Cabinet. Ministry of Public Health Announcement about Thai Household Remidies 2020. [internet] [cited 2023 Apr 5]. Available from: https://drug.fda.moph.go.th/announcement-ministry/law03-20-04-2563

Jaksupan P, Sutheeprasert T, Sunthorn S, Komolmalai S, Laisuwannachart P. Factors related to paracetamol consumption among the eldery in Saohai District, Saraburi Province. J Health Sci Thai 2021;30(5):781-9.

Suksusin J, Saelee N, Chuemongkon W. Knowledge and behavior regarding paracetamol usage among residents of Nawamin Sub-district, Bueng Kum district, Bangkok. Srinagarind Med J 2021;36(4):451-9.

Satyapan N, Anannatikul P, Papang M. Knowledge and behavior in using household remedies of grade 11 students. EAU Heritage Journal Science and Technology 2019;13(3):188-99.

Orayj K, Alshahrani SM, Alqahtani AM, Alasmari N, Atef AAA, Jrais HS, et al. The use of Over-The-Counter (OTC) medications by university students during examinations in Saudi Arabia: a cross-sectional study. Risk Manag Healthc Policy 2021;14:2675-82.

Dhand NK, Khatkar MS. Statulator: An online statistical calculator. Sample Size Calculator for Estimating a Single Proportion 2014. [Internet] [cited 2023 Apr 5]. Available from: http://statulator.com/SampleSize/ss1P.html.

Polit DF, Beck CT. The content validity index: are you sure you know what's being reported? Critique and recommendations. Res Nurs Health 2006;29(5):489-97.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

16-12-2024

รูปแบบการอ้างอิง

1.
สุกาญจนาเศรษฐ์ ว, คชศิริพงศ์ พ. ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้บ่อยของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ไม่ใช่สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต. J DMS [อินเทอร์เน็ต]. 16 ธันวาคม 2024 [อ้างถึง 12 ธันวาคม 2025];49(4):116-24. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/JDMS/article/view/268775

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ