ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง ของชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) แบบภาคตัดขวาง (Cross section design) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของข้อมูลส่วนบุคคล ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองกินเพล ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2561 จำนวน 118 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามดังนี้ ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน มีค่า KR–20 = 0.67 การสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม (Cronbach’s Alpha Coefficient) เท่ากับ 0.78 และ 0.85 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติไคว์สแควร์ (Chi–square test: x2) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การสนับสนุนทางสังคมโดยรวม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 60.17, 52.54 และ 71.19 ตามลำดับ) เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ พบว่าดัชนีมวลกายและการมาตรวจตามนัด มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญในสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยด้านความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ไม่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2
Article Details
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะใดๆ ที่นำเสนอในบทความเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว โดยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะกรรมการวารสารราชธานีนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์สุขภาพไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยราชธานี บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดหรือผลที่เกิดขึ้น จากการใช้ข้อมูลที่ปรากฏในวารสารฉบับนี้
เอกสารอ้างอิง
ดวงใจ พันธ์อารีวัฒนา. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมค่าน้ำตาลสะสมในเลือดไม่ได้ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลบางแพ จังหวัดราชบุรี. วารสารแพทย์เขต 4-5, 37(4), 294-305.
ทรรศนีย์ สิริวัฒนพรกุล, นงนุช โอบะ, และสุชาดา อินทรกำแหง ณ ราชสีมา. (2550). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 1(2), 57-67.
ธนวัฒน์ สุวัฒนกุล. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำาตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 12(3), 515-522.
ผุสดี ด่านกุล, พชรพร สุวิชาเชิดชู, และนิภาวรรณ ทองเป็นใหญ่. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านพฤติกรรมการดูแลตนเอง ปัจจัยด้านการสนับสนุนกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของหน่วยบริการปฐมภูมิเครือข่ายเมืองย่า 5. นครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 17(2), 27-38.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองกินเพล. (2561). ทะเบียนผู้รับบริการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังประจำปี 2561.
ละอองดาว คำชาตา, ชดช้อย วัฒนะ, และ ธีรนุช ห้านิรัติศัย. (2560). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเอง เส้นรอบวงเอว ระดับน้ำตาลในเลือด และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดในผู้ที่มีกลุ่มอาการเมตาโบลิก. วารสารพยาบาลสาร, 44(3), 65-76.
โศรดา ชุมนุ้ย เเละคณะ. (2550). ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลร่องคำ อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 1(3), 60-69.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทศรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี. (2561). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน พ.ศ.2560. สืบค้นจาก
https://www.dmthai.org/attachments/article/443/guideline-diabetes-care-2017.pdf
สุจิตรา บุญประสิทธิ์, สิริลักษณ์ โสมานุสรณ์, และชมนาด สุ่มเงิน. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการจัดการตนเองในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้สูงอายุโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 32(1), 44-56.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี. (2561). บทสรุปผู้บริหาร คณะที่ 1 การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ. สืบค้นจาก http://bie.moph.go.th/e-nsreport_ex/file_report/2018-08-21-09-19-05-11.doc
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2559). ประเด็นสารรณรงค์วันเบาหวานโลก ปี 2559. สืบค้นจาก http://thaincd.com/document/file/info/non-communicable-disease
สำนักโรคไม่ติดต่อ. (2561). จำนวนและอัตราตายโรคไม่ติดต่อ ปี 2559-2560 (ความดันโลหิตสูง
เบาหวาน หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมอง หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง). สืบค้นจาก http://www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id =13486&tid=32&gid=1-020
อนุชา คงสมกัน. (2555). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลรามาธิบดี. วารสารสุขศึกษา, 35(120), 62-73.
อมรา ทองหงส์. (2558). สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค ประจำปี 2558. สืบค้นจาก ttp://www. boe.moph.go.th/Annual/AESR2015/aesr2558/Part%201/11/diabetes.pdf
อุสา พุทธรักษ์ และเสาวนันท์ บำเรอราช. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก้างปลา จังหวัดเลย. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 3(1), 20-35.
American Diabetes Association (2017). Classification and Diagnosis of Diabetes. Diabetes Care, 40(Suppl 1), S11-S24.
Krejcie, R.V. & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Pablos-Velasco, P.D., Parhofer, K.G., Bradley, C., Eschwege, E., Gonder-Frederick, L., & Maheux, P. (2014). Current Level of Glycaemic Control and Its Associated Factors in Patients With Type 2 Diabetes Across Europe. Clinical Endocrinoogyl, 80(1), 47-56.
Pender, N.J., Murdaugh, C.L., & Parson, M.A. (2002). Health Promotion in Nursing Practice (4th ed). Upper Saddle River, N.J.: Prentice Hall.