การประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองกะทุ่ม ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง, โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ, โรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, แรงสนับสนุนทางสังคมบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi–Experimental Research) มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา
ผลของการประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สุขภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงที่ลงทะเบียนเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองกะทุ่ม ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา การคัดเลือกได้มา
โดยวิธีการสุ่มแบบง่าย จำนวน 70 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 35 คน ดำเนิน
กิจกรรมตามโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง เฉพาะในกลุ่มทดลอง
เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ก่อนการทดลอง และหลังการทดลอง วิเคราะห์
ข้อมูลโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ใช้สถิติร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เปรียบเทียบ
ด้วยสถิติ Paired Sample t-test ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับ
โรคหลอดเลือดสมอง การรับรู้ความสามารถตนเองในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง การรับรู้
ประโยชน์และอุปสรรคในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกัน
โรคหลอดเลือดสมองของผู้สูงอายุที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูงดีขึ้น และดีกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ (p-value <0.05) สรุปได้ว่า หากผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง มีความรู้เกี่ยวกับโรค
หลอดเลือดสมอง มีการรับรู้ความสามารถตนเอง และการรับรู้ประโยชน์และอุปสรรค มีผลทำให้การปฏิบัติตัว
เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้สูงอายุที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูงดีขึ้น ดังนั้น โปรแกรมการประยุกต์ใช้
แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรค
หลอดเลือดสมองมีผลต่อการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้สูงอายุที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และสามารถ
นำไปประยุกต์ใช้กับการแก้ไขป้องกัน โรคเรื้อรังอื่นๆได้
เอกสารอ้างอิง
ซิสเต็มส์, 2553.
2. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานโรคไม่ติดต่อประจำปี 2558. กรุงเทพฯ, 2557.
3. รวมพร นาคะพงศ์ และศิริกัลยาณี มีฤทธิ์. สถานการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือด ปี 2554. กรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข, 2555.
4. นิจศรี ชาญณรงค์. การดูแลรักษาภาวะสมองขาดเลือดในระยะเฉียบพลัน. กรุงเทพฯ: ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.
5. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข. ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด และแนวทางการจัดเก็บข้อมูล
กระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวง
สาธารณสุข, 2558.
6. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา งานควบคุมโรคไม่ติดต่อ. สรุปผลงานโรคไม่ติดต่อ
ประจำปี 2558. นครราชสีมา:สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา, 2558.
7. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปากช่อง งานควบคุมโรคไม่ติดต่อ. สรุปผลงานโรคไม่ติดต่อประจำปี 2558.
นครราชสีมา: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, 2558.
8. Becker,M.H. The Health Belief Model and Preventive Health Behavior. Health Education Monographs
1974. 2,4 winter : 354-385.
9. สมบูรณ์ วงศ์เครือศร. ผลการประยุกต์ใช้กระบวนการกลุ่มและความเชื่อทางศาสนาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อ การเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับในประชากรกลุ่มเสี่ยง ตำบลหลุบเลา อำเภอ
ภูพาน จังหวัดสกลนคร[วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม; 2555.
10. กชพร อ่อนอภัย. การประยุกต์รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงตำบลบ้านแท่นอำเภอบ้านแท่น จังหวัด
ชัยภูมิ [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น ; 2551.
11. ปราณี ลอยหา. ประสิทธิผลของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการกำกับตนเองร่วมกับการสนับสนุนทางสังคม
เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมระดับความดัน
โลหิตให้อยู่ในภาวะปกติศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น [วิทยานิพนธ์
ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น ; 2550.
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
