ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดภาวะพังผืดรอบท่อนํ้าดีในประชากร ตำบลวังทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ
คำสำคัญ:
ภาวะผังผืดรอบท่อนํ้าดีบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงที่มีอิทธิพลต่อการเกิด
ภาวะพังผืดรอบท่อนํ้าดี (Periductal Fibrosis) ซึ่งเป็นลักษณะพยาธิสภาพการอักเสบเรื้อรังของผนัง
ท่อนํ้าดี ทำให้ผนังท่อนํ้าดีหนาตัวและอาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งท่อนํ้าดีได้ในอนาคต กลุ่มตัวอย่างคือ
ประชากรอายุ 40 ปีขึ้นไปในตำบลวังทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ใช้วิธีการหาขนาดตัวอย่าง
จากการคำนวณด้วยสูตรของ Wayne (1995) ได้กลุ่มตัวอย่าง 255 คน ทั้งนี้ระหว่างการเก็บข้อมูลการตรวจ
ultrasound พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจมาขอตรวจ ultrasound เป็นจำนวนมากกว่าที่ได้คำนวณไว้
โดยสามารถเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างได้ 755 คน คิดเป็นร้อยละ 296 ของกลุ่มตัวอย่างที่คำนวณได้ เครื่องมือ
ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วน คือ ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง และ
ข้อมูลการตรวจ ultrasound การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามชนิดมีผู้สัมภาษณ์ ที่ผ่านการตรวจสอบความตรง
ตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และการตรวจ ultrasound ช่องท้องโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรม ultrasound
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป ข้อมูลการตรวจ ultrasound โดยใช้
สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ และ ร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดภาวะ Periductal
Fibrosis ใช้สถิติอนุมาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระแบบหลายตัวแปร (Multivariate analysis)
โดยใช้การวิเคราะห์แบบถดถอยพหุลอจิสติก (Multiple Logistic Regression) โดยวิธีการขจัดออกคราวละ
ตัวแปร (Backward Elimination) และนำเสนอค่าขนาดความสัมพันธ์ที่ปรับอิทธิพลของตัวแปรอื่นแล้วด้วย
Adjusted Odds Ratio (ORadj) และค่า 95%CI ผลการศึกษาวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาตรวจอัลตราซาวด์
พบภาวะ Periductal Fibrosis (PDF) ร้อยละ 28.2 แบ่งเป็น PDF1 ร้อยละ 17.0 PDF2 ร้อยละ 11.0 และ
PDF3 ร้อยละ 0.2 ตรวจพบก้อนเนื้อที่ตับ 11 ราย (ร้อยละ 1.5) และตรวจพบ Dilated Bile Duct 4 ราย
(ร้อยละ 0.5) ได้ส่งต่อเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลชัยภูมิ 8 ราย (ร้อยละ 1.1) ผลการติดตามพบว่า
เป็นมะเร็งตับ Hepatocellular Carcinoma ระยะเริ่มต้น 1 ราย เป็นผู้ป่วยเพศชายอายุ 71 ปี ได้รับการผ่าตัดรักษา
ที่โรงพยาบาลชัยภูมิและมะเร็งท่อนํ้าดี Cholangiocarcinoma 1 ราย เป็นผู้ป่วยเพศชายอายุ 68 ปี รักษาส่งต่อ
โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดภาวะ Periductal Fibrosis (PDF) ประกอบด้วย ประวัติ
เคยกินปลานํ้าจืดสุกๆ ดิบๆ หรือปลาร้าที่ไม่ต้มสุก (ORadj=5.87; 95%CI=1.38-24.96, p=0.017) การสูบบุหรี่
(ORadj=1.62; 95%CI=1.08-2.43, p=0.020) การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ORadj=1.51; 95%CI=1.05-2.17,
p=0.026) และประวัติมีญาติป่วยเป็นมะเร็งท่อน้ำดี (ORadj=2.06; 95%CI=1.07-3.95, p=0.031) การศึกษา
วิจัยนี้พบว่า ตำบลวังทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพังผืดรอบท่อนํ้าดี
จึงควรมีมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคระยะยาว และติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควรเพิ่ม
การประชาสัมพันธ์และการเข้าถึงเกี่ยวกับการตรวจอุจจาระหาไข่พยาธิใบไม้ในตับ และการตรวจอัลตราซาวด์
กลุ่มเสี่ยง และควรรณรงค์เรื่องการเลิกพฤติกรรมการรับประทานปลานํ้าจืดสุกๆ ดิบๆ หรือปลาร้าไม่ต้มสุก
ร่วมกับการเลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ และการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับ และเพิ่มการคัดกรองโรคในผู้มีประวัติญาติป่วยเป็นมะเร็งท่อนํ้าดี
เอกสารอ้างอิง
2. Sripa B, Pairojkul C. Cholangiocarcinoma lessons from Thailand, CurrOpinGastroenterol, 2008
May;24(3):349-356.
3. นิตยา ฉมาดล. ภาพวินิจฉัยของมะเร็งท่อนํ้าดี, ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
หจก.โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา, 2557:144.
4. Mairiang E, Laha T, Jeffrey MB, et al. Ultrasonography assessment of hepatobiliary abnormalities
in 3,359 subjects with Opisthorchisviverrini infection in endemic areas of Thailand, Parasitology
International, 2012; 61:208-211.
5. Elkins DB, Mairiang E, Sithithaworn P, et al. Cross-sectional patterns of hepatobiliary
abnormalities and possible precursor conditions of cholangiocarcinoma associated with
Opisthorchisviverrini infection in humans. Am J Trop Med Hyg, 1996 Sep;55(3):295-301.
6. อังษณา ยศปัญญา, สุพรรณ สายหลักคำ, บุญจันทร์ จันทร์มหา, เกษร แถวโนนงิ้ว.ความชุกและปัจจัย
ที่มีผลต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ จังหวัดเลย ปี 2556. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัด
ขอนแก่น, ปีที่ 22 ฉบับที่ 1; มกราคม - มิถุนายน 2558: 89-97.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
