ผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองและการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อพฤติกรรมสุขภาพ และความดันโลหิตของกลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงวัยทำงาน
คำสำคัญ:
การจัดการตนเอง, โรคความดันโลหิตสูงบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการ
ตนเองโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อพฤติกรรมสุขภาพและความดันโลหิต ศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรค
ความดันโลหิตสูงวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 35-59 ปี ที่ทำงานในเขตอุตสาหกรรมสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงและมารับบริการที่คลินิกโรคเรื้อรังที่โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองปลิง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างเดือนตุลาคม 2559-มิถุนายน 2560 กลุ่มตัวอย่าง
เป็นผู้ป่วยที่สมัครใจเข้าร่วมวิจัย โดยต้องมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้
เป็นเวลา 6 เดือน จำนวนทั้งสิ้น 64 คน ถูกแบ่งโดยการสุ่มเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 32 คน ซึ่งจะได้เข้าร่วม
โปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว และกลุ่มควบคุมจำนวน 32 คน ที่ได้รับ
การรักษาพยาบาลปกติ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามขอ้ มูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพที่ผู้วิจัย
สร้างขึ้นและผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงเท่ากับ 0.78
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างข้อมูลส่วนบุคคล
ระหว่างกลุ่มโดยใช้สถิติ Chi-square เปรียบเทียบความแตกต่างคะแนนพฤติกรรมสุขภาพและค่าความดันโลหิต
ภายในกลุ่มโดยสถิติ paired t-test และเปรียบเทียบคะแนนพฤติกรรมสุขภาพและค่าความดันโลหิตระหว่างกลุ่ม
โดยสถิติ Independent t-test ผลการศึกษาพบว่าภายหลังเข้าร่วมโปรแกรมกลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ย
พฤติกรรมสุขภาพได้แก่ การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการรับประทานยา
สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีค่าเฉลี่ยความดันโลหิต Systolic และ
ความดันโลหิต Diastolic ตํ่ากว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และยังพบว่า
มีค่าเฉลี่ยความดันโลหิต Systolic และความดันโลหิต Diastolic ในกลุ่มทดลองลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุม
ที่ได้รับการรักษาพยาบาลปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จะเห็นได้ว่า โปรแกรมส่งเสริมการจัดการ
ตนเองของผู้ป่วยโดยให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมสามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
วัยทำงานมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างต่อเนื่องและช่วยให้สามารถควบคุมความดันโลหิตสูงได้ดีขึ้น
ข้อเสนอแนะ 1. ควรนำผลวิจัยที่ได้ไปพัฒนารูปแบบการจัดบริการให้ผู้ป่วยโรคอื่น และกลุ่มอายุอื่นๆ ต่อไป
2. การส่งเสริมการจัดการตนเองของกลุ่มวัยทำงานควบคุมภาวะโรคเรื้อรังให้ประสบความสำเร็จนั้น ควรสนับสนุนความรู้ที่ถูกต้อง ง่าย สอดคล้องกับวิถีชีวิต ปฏิบัติได้จริงในทุกช่องทางโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ
เอกสารอ้างอิง
5: 269-280.Thai.
2. Puangpetch L. Self-care behaviors and complications of patients with hypertension hospital.
Region6 Medical J 2009; 23:141-51.
3. กรมควบคุมโรค. คู่มือการจัดบริการสุขภาพกลุ่มวัยทำงานแบบบูรณาการ. สำนักโรคไม่ติดต่อ, กรุงเทพฯ: 2558.
4. กรมควบคุมโรค. รายงานสถานการณ์ NCDS ฉบับที่ 2 Kick off to the Goals. สำนักพัฒนานโยบายสุขภาพ
ระหว่างประเทศ. กรุงเทพฯ : 2559.
5. กรมควบคุมโรค. หลักสูตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพสำหรับพยาบาลผู้จัดการรายกรณีโรคเรื้อรัง.
สำนักโรคไม่ติดต่อ. กรุงเทพฯ : 2559.
6. กรมควบคุมโรค. รายงานสถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เขตสุขภาพที่ 9 ปี พ.ศ. 2553-2558. สำนักงาน
ป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา. นครราชสีมา : 2558.
7. กรมควบคุมโรค. รายงานผลการตรวจราชการสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 9 ปี 2559.สำนักงานป้องกัน
ควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา. นครราชสีมา : 2559.
8. Kanfer, F.H. & Galick –Buys, L. Self- management methods. In F. Kanfer &A. Goldtein (Eds.)
Helping.
people change : A text book of methods. 4th Ed. New York: Pergamonpress ;1991: 305-360.
9. ศิริวัฒน์ วงค์พุทธคำ. ผลของการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพและความดันโลหิตของผู้ป่วยความดัน
โลหิตสูง .วิทยานิพนธ์พยาบาลมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย
เชียงใหม่. เชียงใหม่, 2551.
10. สุภัสษร ชมพู. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพและความดันโลหิตในผู้ป่วยความดัน
โลหิตสูง .วิทยานิพนธ์พยาบาลมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยบูรพา.
ชลบุรี, 2551.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
