การพัฒนารูปแบบการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับโดยชุมชน ในชุมชนแห่งหนึ่งของตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
คำสำคัญ:
วิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม, การพัฒนารูปแบบ, โรคพยาธิใบไม้ตับบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ใช้เทคนิควิธีการแบบผสม (mixed method)
เพื่อพัฒนารูปแบบการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับที่เหมาะสมกับชุมชน ใช้แนวคิดปัจจัยกำหนดสุขภาพ
ที่ประกอบด้วยด้านบุคคล ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านระบบบริการสุขภาพ เป็นกรอบในการวิเคราะห์บริบทและ
ปัญหาโรคพบว่า ทุกข์จากปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับของชุมชนเกี่ยวข้องกับปัจจัยส่วนบุคคล ที่กลุ่มเป้าหมาย
ส่วนใหญ่ยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยงจากการบริโภคปลาดิบคิดเป็นร้อยละ 63.41 ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน
ที่อยู่ติดบึงนํ้าขนาดใหญ่ สามารถหาปลามาบริโภคได้ง่ายทั้งปลาสดและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากปลา อีกทั้ง
ยังมีวัฒนธรรมท้องถิ่นในการบริโภคปลาดิบที่สืบทอดในครอบครัว ค่านิยมการบริโภคปลาดิบในโอกาสพิเศษ
นอกจากนั้น สถานบริการในพื้นที่เสี่ยงยังไม่มีระบบบริการรองรับ ส่วนทุนของชุมชนที่สำคัญคือความสัมพันธ์
ของคนในชุมชน สู่การพัฒนารูปแบบที่ใช้กลไกความสัมพันธ์ของชุมชนจัดการกับปัญหา โดยการพัฒนาศักยภาพ
ของแกนนำชุมชน ให้สามารถบริหารจัดการ สื่อสาร ติดตามเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกับคน
ในครอบครัวและชุมชน และการพัฒนาสู่งานประจำของระบบบริการสาธารณสุข
เอกสารอ้างอิง
เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานในชุมชน. นนทบุรี : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2555.
2) ฐิติมา วงศาโรจน์ และคณะ. รายงานผลการศึกษาสถานการณ์โรคหนอนพยาธิและโปรโตซัวของประเทศไทย
พ.ศ. 2552. นนทบุรี : สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2555.
3) กระทรวงสาธารณสุข. ยุทธศาสตร์ “กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อนํ้าดี วาระคนอีสาน”. นนทบุรี:
สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข, 2555.
4) IARC, Infection with liver flukes (Opisthorchis viverini, Opisthorchis felineus and Clonorchis sinensis).
IARC Mogng Eval Carcinog Risks Hum 1997; 61:121
5) อำพล จินดาวัฒนะ, บรรณาธิการ. การสร้างเสริมสุขภาพ : แนวคิด หลักการ และบทเรียนของไทย.
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน, 2550.
6) อุทัยทิพย์ เจี่ยวิวรรธน์กุล. การวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม: แนวคิด หลักการ และบทเรียน. โครงการ
การวิจัยประเมินผลและการสังเคราะห์องค์ความรู้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมของ
มูลนิธิสยามกัมมาจลในโครงการส่งเสริมการจัดการความรู้ของเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น (4 ภาค)
และโครงการเสริมศักยภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนและชุมชน. กรุงเทพฯ:
พี.เอ.ลีฟวิ่ง, 2553.
7) ปาริชาติ วลัยเสถียร และคณะ. กระบวนการและเทคนิคการทำงานของนักพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:
โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.), 2546.
8) สมพร ดวงคำฟู. การพัฒนากลไกพื้นฐานระดับชุมชนเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน.
กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2546.
9) โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และคณะ, บรรณาธิการ. วัฒนธรรม สุขภาพ กับการเยียวยา: แนวคิดทางสังคม
และมานุษยวิทยาการแพทย์. พิมพ์ครั้งที่ 3. นนทบุรี : สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.), 2551.
10) พันธุ์ทิพย์ รามสูต. การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. นครปฐม : สถาบันพัฒนาการสาธารณสุข
อาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล, (ม.ป.ป.).
11) วิรัตน์ คำศรีจันทร์. พลังความรู้จากการวิจัยแบบ PAR. นครปฐม: สำนักงานวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ
ชุมชน (สพช.) สถาบันพัฒนาสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล, 2554.
12) Wongba N, Thaewnongiew K, Phathee K, et al. Liver Fluke Prevention and Control in the
Northeast of Thailand Through Action Research. Asian Pacific journal of Cancer Prevention.
12: 1367-1370, 2011.
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
