การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุโดยทีมหมอครอบครัวระดับชุมชน ตำบลโนนเมือง อำเภอขามสะแกแสงจังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • พนิดา เที่ยงสันเทียะ คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • สันติสิทธิ์ เขียวเขิน คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • บัณฑิต วรรณประพันธ์ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา

คำสำคัญ:

การมีส่วนร่วมของชุมชน, การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ, ทีมหมอครอบครัว

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ใช้กระบวนการสร้างแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ ศึกษา
รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุโดยทีมหมอครอบครัวระดับชุมชน กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
กระบวนการพัฒนา จำนวน 30 คน และกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 30 คน รวบรวมข้อมูลโดยแบบสัมภาษณ์
การสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหาพบว่า
กระบวนการพัฒนา มี 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) แต่งตั้งคณะทำงาน 2) ศึกษาบริบทพื้นที่ 3) การจัดทำแผน 4) ปฏิบัติ
ตามแผน 5) นิเทศติดตามผล 6) สรุปผลการดำเนินงานให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจเพื่อพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ และเกิดโครงการเพื่อยกกระดับคุณภาพ
ชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน 8 โครงการ โดยสรุปรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ที่เหมาะสมคือการเปิดโอกาสให้ภาคี
เครือข่ายในพื้นที่ทุกระดับเข้ามามีบทบาทร่วมรับผิดชอบ และร่วมดำเนินการโดยมีกลไกการปลูกฝังให้เยาวชน
ในพื้นที่เกิดความตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมตั้งแต่ต้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง

เอกสารอ้างอิง

1. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. สรุปสำหรับผู้บริหารการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ:
สำนักงานสถิติแห่งชาติ,2557.
2. ศูนย์อนามัยที่ 5. รายงานผู้สูงอายุของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: ศูนย์อนามัยที่ 5,
2557.
3. สำนักงานธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา.รายงานการสำรวจข้อมูลเฝ้าระวังสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดนครราชสีมา
กรณี: ตำบลโนนเมือง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: สำนักงานธารณสุข
จังหวัดนครราชสีมา,2558.
4. เทศบาลตำบลโนนเมือง.รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุในชุมชนเทศบาลตำบลโนนเมือง อำเภอขามสะแกแสง
จังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: เทศบาลตำบลโนนเมือง, 2558.
5. Kemmis, S. and McTaggart, R.The Action Research Reader. 3rd ed. Geelong: Deakin University
Press, 1990.
6. วรพจน์ พรหมสัตยพรต และคณะ. การวัดตัวแปรและการวัดผลในเอกสารประกอบการสอนวิชาหลักวิชาการ
ทางวิทยาศาสตร์. มหาสารคาม: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2544.
7. สมบูรณ์ วงศ์เครือศร. ผลการประยุกต์ใช้กระบวนการกลุ่มและความเชื่อทางศาสนาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับในประชากรกลุ่มเสี่ยง ตำบลหลุบเลา อำเภอ
ภูพาน จังหวัดสกลนคร [วิทยานิพนธ์]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย, 2555.
8. ศตวรรษ ศรีพรหม.การมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาตำบลต้นแบบด้านการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
ระยะยาว ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี [วิทยานิพนธ์]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัย,
2556.
9. ณัฐฑิฎา นะกุลรัมย์. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพกลุ่มผู้สูงอายุติดสังคมโดยชุมชนบ้านอังกัญ ตำบล
ท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์.วารสารวิชาการ สคร.9 นครราชสีมา 2559; 23(1):52-63.
10. ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา. การประเมินรูปแบบบริการที่จัดให้ผู้สูงอายุในชุมชนเน้นการให้บริการของศูนย์
สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน [วิทยานิพนธ์]. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2542.
11. WHO Study Group on Home-Based Long-Term Care, & World Health Organization. Home-based
Long-term Care: Report of a WHO Study Group (Vol. 898). Geneva: World Health
Organization, 2000.
12. วรรณภรณ์ พัฒนิบูลย์, จีรพันธ์ ประทุมอ่อน และจุธาลักษณ์ แก้วมะไฟ. การพัฒนารูปแบบการดูแลแบบ
ประคับประคองสำหรับผู้ป่วยสูงอายุที่เจ็บป่วยเรื้อรังในระยะสุดท้ายหอผู้ป่วยอายุรกรรม 2 โรงพยาบาล
ร้อยเอ็ด. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2553; 30(3): 68-77.

เผยแพร่แล้ว

2018-03-31

รูปแบบการอ้างอิง

เที่ยงสันเทียะ พ., เขียวเขิน ส., & วรรณประพันธ์ บ. (2018). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุโดยทีมหมอครอบครัวระดับชุมชน ตำบลโนนเมือง อำเภอขามสะแกแสงจังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 24(1), 65–75. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/188804

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ