ผลของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มเสี่ยง ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2560

ผู้แต่ง

  • พิเชษฐ์ หอสูติสิมา คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

คำสำคัญ:

โปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง, พฤติกรรมการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง, กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา
ผลของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โดยประยุกต์ใช้
ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรค (Protection motivation theory) รวมทั้งศึกษาพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
และการออกกำลังกายเพื่อเปรียบเทียบผลของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่าง
ในการวิจัยครั้งนี้คัดเลือกจากผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงในพื้นที่ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี
จังหวัดนครราชสีมา ตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ในการคัดกรอง โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive
sampling) จำนวน 70 คน แยกเป็นกลุ่มทดลอง 35 คน กลุ่มควบคุม 35 คน โดยกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
ไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบทดสอบ และโปรแกรม
การจัดกิจกรรมมี 5 แผน ใช้เวลา 36 ชั่วโมง ภายในเวลา 3 เดือน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และ
วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย Independent t-test และ Dependent t-test ผลการวิจัยพบว่า
ภายหลังการทดลองกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยของคะแนนความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงการรับรู้ความรุนแรง
ของโรค การรับร้โู อกาสเส่ยี งของการเกิดโรค การรับร้คู วามสามารถของตนเองต่อการมีพฤติกรรมการป้องกันโรค
การรบั รคู้ วามสามารถในการตอบสนอง และพฤตกิ รรมการปอ้ งกนั โรคความดนั โลหติ สงู สงู กวา่ กอ่ นการทดลอง
และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และ ภายหลังการทดลองพบว่า กลุ่มทดลอง
มีค่าเฉลี่ยความดันโลหิตลดลงกว่าก่อนการทดลองและลดลงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(p<0.05)

เอกสารอ้างอิง

1.กรมควบคุมโรค. สำนักโรคไม่ติดต่อ. รายงานประจำปี 2557. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์
ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงสาธารณสุข.
2. กระทรวงสาธารณสุข. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. กองสุขศึกษา. รายงานประจำปี 2557 กรมสนับสนุน
บริการสุขภาพ. กองสุขศึกษา. : กระทรวงสาธารณสุข, 2557.
3. กนกวรรณ ศรีสุภรกรกุล. การควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงแบบองค์รวม. วารสารวิชาการ สาธารณสุข
ปีที่ 18 ฉบับที่ 4 กรกฎาคม – สิงหาคม 2552.
4. ประหยัด ช่อไม้. ผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง
โรคความดันโลหิตสูง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเขาดิน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์10(1) : ม.ค.-มิ.ย. 2558.
5. พัชราภัณฑ์ ไชยสังข์. ประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรม การดูแลตนเอง
และระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยความดันโลหิตชนิดไม่ทราบสาเหตุในชุมชน. วารสารมหาวิทยาลัย
หัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติวิชาการ ปีที่ 14 ฉบับที่ 27 กรกฎาคม - ธันวาคม 2553.
6. พิราญาณ์ วงศ์พัฒนาธนเดช. ประสิทธิผลของโปรแกรมการคัดกรองและให้คำแนะนำส่งเสริมสุขภาพ
แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในร้านยามหาวิทยาลัย สาขาเทศบาล.
วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 ก.ค.-ก.ย. 2554.
7. นุชนารถ สำนัก. ประสิทธิผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ต่อโรคความดันโลหิตสูงในชุมชนหลักกิโลสาม ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออกอำเภอปากพนัง จังหวัด
นครศรีธรรมราช. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 เดือน
พฤษภาคม-สิงหาคม 2554.
8. ธนพร วรรณกูล. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการดูแลตนเองในผู้ป่วยความดัน
โลหิตสูง. วารสารพยาบาลสาธารณสุข ปีที่ 26 ฉบับที่ 3 กันยายน–ธันวาคม 2555.
9. รำไพ นอกตาจั่น. ผลของโปรแกรมการประยุกต์ใช้ทฤษฏีแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรคต่อพฤติกรรมการป้องกันโรค
ความดันโลหิตสูงของประชาชนกลุ่มเสี่ยง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ปีที่ 27 ฉบับที่ 2
มีนาคม – สิงหาคม 2559.
10. รัตนา เกียรติเผ่า. ผลของการใช้โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพต่อการลดความเสี่ยงโรคความดัน
โลหิตสูงและโรคเบาหวานของประชากรกลุ่มเสี่ยง ตำบลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี. วารสาร
วิชาการสาธารณสุข ปีที่ 24 ฉบับที่ 3 พฤษภาคม – มิถุนายน 2558.
11. เรวดี เพชรศิราสัณห์. ประสิทธิผลของโปรแกรมการพยาบาลเชิงรุกต่อการควบคุมความดันโลหิตในผู้สูงอายุ
โรคความดันโลหิตสูง:ผลลัพธ์ในระยะ 3 เดือน. วารสารพยาบาลตำรวจ ปีที่ : 5 ฉบับที่ : 2 เลขหน้า :
1-18 ปีพ.ศ. : 2556.
12. เสาวณีย์ ขวานเพชร.ผลของโปรแกรมส่งเสริมโภชนาการต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อควบคุมความ
ดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จังหวัดแพร่. วารสารสาธารณสุข
ศาสตร์ ฉบับพิเศษ, 2554: 9-20, 2554.
13. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. กลุ่มงานควบคุมโรค. งานโรคไม่ติดต่อ
รายงานประจำปี 2560. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, 2560.
14. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. รายงานประจำปี 2557. สำนักนโยบาย
และยุทธศาสตร์, 2557.
15. สวรินทร์ พวงโคกกรวด. ประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมการออกกำลังกายของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสุขภาพชุมชน บัณฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 2553
16. Green, L.W. Krenter, M.W., Deeds, S.C., and Parteidge. KB. Health Education Planning : A Diagnostic
Approach. California : Mayfield Pubishing, Co, 1980
17. House, J.S. Work Stress and Social Support. California: Addison Wesley Publishing, 1981
18. Hakim A. Prevalence of hypertension and associated factors in ahvaz school age children in 2013.
Int J Community Based Nurs Midwifery. 2014 Jul;2(3):136-41.
19. Joint National Committee [JNC]. The seventh report of the joint nation committeeonprevention,
detection, evaluation and treatment of high blood pressure: The JNC 7report. Journal of the
American Medical Association. 289 : 2560 - 2572.
20. Khan NA. The 2012 Canadian hypertension education program recommendations for the
management of hypertension: blood pressure measurement, diagnosis, assessment of risk,
and therapy. Can J Cardiol. 2012 May;28(3):270-87.
21. Knowles, M. S. Self-directed Learning : A Guide for Learners and Teachers. Englewood Cliffs:
Prentice Hall/Cambridge, 1975
22. Madanat H.Correlates of Measured Prehypertension and Hypertension in Latina Women Living Along
the US-Mexico Border, 2007-2009. Prev Chronic Dis. 2014 Oct 23;11:E186.
23. Rogers, R. W. Cognitive and physiological processes in fear appeals and attitude change : Arevised
theory of protection motivation. In J. Cacioppo& R. Petty (Eds.).Social Psychophysiology.
pp. 153-176. New York: Guilford Press, 1983.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-31

รูปแบบการอ้างอิง

หอสูติสิมา พ. (2019). ผลของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มเสี่ยง ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2560. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 25(2), 56–66. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/189558

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ