ผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ของอาสาสมัครสาธารณสุขศูนย์แพทย์ชุมชนเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2560

ผู้แต่ง

  • นฤมล วงศ์วัยรักษ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
  • รชานนท์ ง่วนใจรัก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา

คำสำคัญ:

สมรรถนะ, ไวรัสซิกา, อาสาสมัครสาธารณสุข

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลของโปรแกรมพัฒนาสมรรถนะด้านความรู้
ความเชื่อด้านสุขภาพ และการปฏิบัติตัวในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎี
แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและแรงสนับสนุนทางสังคม กิจกรรมประกอบด้วยการให้ความรู้ จัดนิทรรศการ
ชมวีดิทัศน์ แจกแผ่นพับ ให้คำ แนะนำ และกำ ลังใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กลุ่มเกี่ยวกับโรคดังกล่าว
กลุ่มตัวอย่างเป็น อสม. แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 45 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมพัฒนา
สมรรถนะในการป้องกันและควบคุมโรค กลุ่มควบคุมไม่ได้รับกิจกรรมใดๆ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม
ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสซิกา แบบวัดความเชื่อด้านสุขภาพและการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับการป้องกัน
และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ดำเนินการวิจัยระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2560 ข้อมูลทั่วไป
ของกลุ่มตัวอย่างวิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณนาและ Chi-Square test และการเปรียบเทียบวิเคราะห์ด้วย
Paired sample t-test และ ANCOVA
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีสมรรถนะด้านความรู้ ความเชื่อด้านสุขภาพ และการปฏิบัติตัวในการป้องกัน
และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาหลังการทดลองดีกว่าก่อนการทดลอง และดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมพัฒนาสมรรถนะของอาสาสมัครสาธารณสุขในด้านความรู้
ความเชื่อด้านสุขภาพ และการปฏิบัติตัว มีประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา

เอกสารอ้างอิง

1. Bloom. “Martin. Primary prevention practices : Issues in Child's and Families' Lives. California”
: SAGE Publications International Education and Professional Publisher,1996.
2. House, A. “The Association of Social Relationship and Activities with Mortality
: Community health Study”. American Journal Epidemiology 1981 ; 10(1) : 12 -18.
3. Rosenstock, M. Irwin. “The Health Belief Model and Prevention Health Behavior”
. Health Education Quarterly 1974 ; 15(2) : 175-183.
4. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์
และสาธารณสุข ปี 2559. สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์
กรุงเทพ, 2559.
5. ยุพาพร อินธิไชย. ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดนกของแกนนำ ชุมชน
ตำบลโนนกอก อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ 2558 ; 18(2) : 79-87.
6. สมฤดี บุญเป็ง. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาที่ดีต่อความรู้ การรับรู้ และความคาดหวังในการป้องกันโรค
ไข้หวัดนกของอาสาสมัครสาธารณสุข ตำบลตาสัง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ (ปริญญาสาธารณสุขศาสตร
มหาบัณฑิต). นครสวรรค์ : มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ; 2552.
7. หาญณรงค์ แสงแก. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันและควบคุมไข้เลือดออกของแกนนำครัวเรือน
ตำบลเมืองไผ่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. วารสารวิจัยราชภัฎพระนคร 2558 ; 10(1) : 65-81.
8. อรุณ จิรวัฒน์กุล. สถิติทางวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อการวิจัย. กรุงเทพ : วิทยพัฒน์ ; 2552.
9. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการเขตสุขภาพที่ 9 ครั้งที่ 2/2560 วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-08-28

รูปแบบการอ้างอิง

วงศ์วัยรักษ์ น., & ง่วนใจรัก ร. (2019). ผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ของอาสาสมัครสาธารณสุขศูนย์แพทย์ชุมชนเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2560. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 25(3), 24–33. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/212252

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ