การพัฒนานวัตกรรมโปรแกรมมะขาม 3 รุ่นในการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน ในพื้นที่นำร่องของจังหวัดชัยภูมิ

ผู้แต่ง

  • pramuan laosombutthawee Chaiyaphum Provincial public Health office
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ

คำสำคัญ:

นวัตกรรมโปรแกรมมะขาม 3 รุ่น, โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, ระดับน้ำตาลในเลือด

บทคัดย่อ

        การพัฒนานวัตกรรมโปรแกรมมะขาม 3 รุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมในการลดภาวะเสี่ยงในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วย ออกแบบให้อ้างอิงกับพืชเศรษฐกิจของชุมชน และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเสี่ยง (มะขามหมู) กลุ่มผู้ป่วย (มะขามสุก) และกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน (มะขามขึ้นรา) ลดอาการแทรกซ้อนของผู้ป่วยรายเก่าโดยการประเมินค่าดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว DTX, HbA1C และ eGFR ในระยะเวลา 6 เดือน                       (ต.ค.61 - เม.ย.62) ในพื้นที่นำร่อง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้รูปแบบ Practical Action Research กลวิธี คือ1) คัดกรองความเสี่ยงในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1,104 ราย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มเสี่ยง โดยใช้ Role model แบ่งเป็นครู 4 เหล่า คือ พยาบาล อาจารย์ พระสงฆ์ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 2) ให้ความรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มและรายบุคคลในกลุ่มป่วยเบาหวาน โดยทีมสหวิชาชีพ (ใช้หลัก 3 อ. 3ส. 1 น. ได้แก่ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย สวดมนต์ สมาธิ สนทนาธรรม และนาฬิกาชีวิต) 3) กลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนใช้กระบวนการให้สุขศึกษารายบุคคลโดยแพทย์ประจำบ้าน มีการติดตามและประเมินผลทุกกระบวนการโดยทีมอสม. และจิตอาสาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงปริมาณ paired t-test, Z-test และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการคัดกรอง พบว่า ประชาชนมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน 37 ราย (prevalence = 3.4; 95% CI: 2.4, 4.6) หลังสิ้นสุดโครงการ พบว่า กลุ่มเสี่ยง (37 ราย) มีค่าดัชนีมวลกายเฉลี่ยลดลง จาก 25.66 เหลือ 24.99 (Mean difference = 0.67; 95% CI: 0.46, 0.88) มีเส้นรอบเอวเฉลี่ยลดลง จาก 82.59 เซ็นติเมตรเหลือ 80.84 เซ็นติเมตร (Mean difference = 1.76; 95% CI: 1.05, 2.47) และค่า DTX ลดลง 12.32 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (36 ราย) เสียชีวิต 3 ราย ระหว่างการศึกษา (เหลือ 33 ราย เมื่อสิ้นสุดโครงการ) เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมในรอบแรก (ต.ค. 61) มีผู้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ (HbA1C > 7) 16 ราย จากนั้นลดเหลือ 6 ราย ในรอบสอง (ม.ค.62) และรอบสุดท้าย (เม.ย.62)   ลดเหลือ 3 ราย (proportions difference = 36.1; 95% CI: 17.5, 54.7) กลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อน (10 ราย ร้อยละ 30.6 ของผู้ป่วยเบาหวาน) พบภาวะแทรกซ้อนทางไต เมื่อเริ่มต้นอยู่ในระดับ 3A - 3B เมื่อสิ้นสุดโครงการผู้ป่วยสามารถปรับระดับได้ดีขึ้น 5 ราย โดยค่า CKD อยู่ในระดับ 2 ถึง 3A โปรแกรมมะขามหวาน 3 รุ่น       มีประสิทธิผลในการควบคุมระดับน้ำตาล และภาวะเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรค ปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ 1) การจัดโปรแกรมแก้ไขปัญหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย 2) การใช้บุคคลต้นแบบในการสื่อสารกับชุมชน และ 3) การใช้อาสาสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกโดยชุมชนและผ่านการทดสอบสมรรถนะโดยบุคลากรสาธารณสุข

คำสำคัญ: นวัตกรรมโปรแกรมมะขาม 3 รุ่น, โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, ระดับน้ำตาลในเลือด

เอกสารอ้างอิง

กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สำนักโรคไม่ติดต่อ. คู่มือการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ

เรื้อรังโดยยึดชุมชนเป็นฐาน: ชุมชนลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (CBI NCDs),พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:

อิโมชั่น อาร์ต จำกัด, 2560.

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. แผนยุทธศาสตร์การป้องกัน

และควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ.2560 – 2564), กรุงเทพฯ: อีโมชั่น อาร์ต จำกัด, 2560.

World Health Organization; WHO: Noncommunicable diseases; c2020[Internet].2020[cited 2020

March 12]. Available form: https://www.who.int/news-room/fact- sheets/detail/noncommunicable-diseases.

ศูนย์พัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์แผนงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ. สถานการณ์โรค. [อินเตอร์เน็ต]

[เข้าถึงเมื่อ 2 มิ.ย.2562]. เข้าถึงได้จาก http://k4ds.psu.ac.th/ncd/situation.

มูลนิธิเพื่อพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. รายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทย พ.ศ.2554, นนทบุรี: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์สงเคราะห์องค์การทหารผ่านศึก, 2557.

สุพัตรา ศรีวณิชชากร. สถานการณ์การป่วยและการตายด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจและหลอดเลือด) ในประเทศไทย ในระยะ 5 ปี (พ.ศ.2553 – 2557). วารสารควบคุมโรค 2560; 4: 379 – 390.

กระทรวงสาธารณสุข. การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 10 เมษายน 2563]. เข้าถึงได้จากhttps://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/

ณิชาภัทร ไตรรัตน์สิงหกุล. การประยุกต์ใช้วงล้ออาหารชะลอไตในผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตเรื้อรัง ตำบลหนามแดง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา [อินเตอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 7 มีนาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก:http://www.govesite.com/namdangdistricthealthpromotion02196/

สุขสันต์ อินทรวิเชียร. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน ในกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น 2555; 2:

– 75.

ศิริเนตร สุขดี. การพัฒนารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน [วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2560.

วิมลศรี อุทัยพัฒนาชีพ, พิณญาดา อำภัยฤทธิ์. ประสิทธิผลการพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

สุขภาพต้นแบบ. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 2562; 1: 37 – 48.

อโนทัย นิลศรี. การดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ด้วยนวัตกรรม “แผ่น 4 สีชี้ทาง

เบาหวาน”. วารสารหมอยาไทยวิจัย 2560; 2: 31 – 36.

กองโรคไม่ติดต่อ. แนวทางการดำเนินงาน NCD Clinic Plus ปี 2562 [Internet]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 17

มีนาคม พ.ศ.2563]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thaincd.com/.

สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา. ผลงานเด่น ผลงานคุณภาพ Best Practice

นวัตกรรม ของ สคร.9 นครราชสีมา (ปี 2562 – 2563) [อินเตอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ.2563]. เข้าถึงได้จาก: http://odpc9.ddc.moph.go.th/DPC5/Notableworks.html.

วีระยุทธ ชาตะกาญจน์. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ. วารสารราชภัฎสุราษฎร์ธานี 2558; 1: 29 - 49.

Cohen, J. Statistical Power Analysis for the Behavioral Sciences. 2nd ed. Hillsdale,

NJ: Lawrence Erlbaum Associates. 1998.

Cole, J. W. L., and J. E. Grizzle. Applications of multivariate analysis of variance to repeated measures experiments. Biometrics 22 1996; 2: 810–828.

Hujoel, P. P., Moulton L. H. &Loesche W. J. Estimation of sensitivity and specificity of site-specific diagnostic tests. Journal of Periodontal Research 1990; 25: 193–196.

O’Brien, K.L., Moulton L. H., Reid R., Weatherholt R., Oski J., Brown L., Kumar G.,

Parkinson A.,Hu D., Hackell J., Chang I., Kohberger R., Siber G., &Santosham M.Efficacy and safety of the seven-valent conjugate pneumococcal vaccine in American Indian children: Group randomized trial. Lancet 2003; 362: 355–361.

สำนักงานเขตสุขภาพที่ 9. Performance Agreement (PA) เขตสุขภาพที่ 9 ปีงบประมาณ 2559

[Internet]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 12 มีนาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: http://164.115.22.73/r9health/?p=924.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-05-28

รูปแบบการอ้างอิง

laosombutthawee, pramuan, & ประพรมมา ส. . . (2020). การพัฒนานวัตกรรมโปรแกรมมะขาม 3 รุ่นในการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน ในพื้นที่นำร่องของจังหวัดชัยภูมิ. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 26(2), 71–81. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/240644

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ