ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย

บทคัดย่อ

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย  โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย จำนวน 363 คน ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือนธันวาคม 2563 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน Logistic Regression Analysis นำเสนอค่าความสัมพันธ์ Odds ratio (OR) ค่าความเชื่อมั่นร้อยละ 95 (95% CI) โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 60.61ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล ประกอบด้วย อายุ 41 - 60 ปี (OR=2.64, 95% CI=1.19-5.82), ระยะเวลาการเป็นอสม. 1-10 ปี (OR=2.15, 95% CI=1.08-4.26) ปัจจัยด้านความรู้การป้องการตนเองระดับปานกลาง (OR=16.60, 95% CI=1.99-58.44) ความรู้ด้านการป้องการตนเองระดับสูง (OR=6.91, 95% CI=1.84-56.45) ความเชื่อด้านสุขภาพเกี่ยวกับปัจจัยการรับรู้การป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันตนเองระดับปานกลาง (OR=2.47, 95% CI=1.28-37.96) การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันตนเองระดับสูง (OR=52.66, 95% CI=3.28 – 93.88) ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์ควรจัดอบรมส่งเสริมความรู้ให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านโดยมุ่งเน้นการจัดอบรมเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งเป็นวัยที่คิดว่าตนเองมีสุขภาพดี เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักในการส่งเสริมดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019