ผลของโปรแกรมลดการบริโภคเค็มในกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง เขตสุขภาพที่ 7

ผู้แต่ง

  • กรรณิการ์ ตฤณวุฒิพงษ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น
  • ทิพาพร ราชาไกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์
  • ประภาศรี ทุมะลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
  • สม นาสอ้าน

คำสำคัญ:

โปรแกรมลดการบริโภคเค็ม, การบริโภคเค็ม, กลุ่มสงสัยป่วย, โรคความดันโลหิตสูง

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental study) เพื่อประเมินผลโปรแกรมลดการบริโภคเค็มในกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง เขตสุขภาพที่ 7 ดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2561–กรกฎาคม 2562 โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วยการให้คำแนะนำ ปรึกษา แลกเปลี่ยนเทคนิคการลดอาหารที่มีเกลือและโซเดียม สุ่มตัวอย่างอำเภอ ร้อยละ 50 จากทั้งหมด 77 อำเภอ  แล้วสุ่มชุมชนอำเภอละ 1 ชุมชน จากนั้นสุ่มอย่างง่ายจากกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 50 คนต่อชุมชน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,903 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบประเมินความรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น การตรวจร่างกาย และวัดระดับความเค็มในอาหาร เดือนที่ 0, 1 และ 2 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมานเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความรู้ โซเดียม เกลือ และค่าความดันโลหิตก่อนและหลังด้วยสถิติ Paired t-test เปรียบเทียบค่าสัดส่วนความดันโลหิตก่อนและหลังด้วยสถิติ Stuart-Maxwell test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า หลังการทดลอง ค่าเฉลี่ยความรู้ในการลดการบริโภคเกลือและโซเดียมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Mean difference = 3.13; 95% CI: 3.03–3.24, p-value < 0.001) ค่าเฉลี่ยโซเดียม (Na) 305.05 มิลลิกรัม (S.D. = 115.89) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Mean difference 94.99; 95% CI 90.08–99.90, p-value < 0.001) ค่าสัดส่วนความดันโลหิตเดือนที่ 0 และ 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Stuart-Maxwell Chi-square = 592.78, p-value < 0.001) การประเมินระดับความเค็มในอาหารร่วมกับการวัดความดันโลหิตที่บ้าน สร้างความตระหนักในการลดเค็ม ลดความดันโลหิต ซึ่งป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้ ควรสร้างความรอบรู้ผลกระทบการบริโภคเค็มอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายผลลงสู่กลุ่มเสี่ยงประชาชนในชุมชน และสร้างนโยบายสาธารณะให้เกิดความยั่งยืนในการลดเค็ม ลดโรค เพิ่มสุขภาวะที่ดีต่อไป

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Global Action Plan for the Prevention and Control of Noncommunicable Diseases

-2020 [Internet]. 2013 [Cited 11 October 2018]. Available from:

https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/94384/

_eng.pdf;jsessionid=6000A27373CC5DD99D45554F9DB3292A?sequence=1.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. ข้อมูลโรคไม่ติดต่อ[อินเทอร์เน็ต].2016 [เข้าถึงเมื่อ 16 กันยายน 2562]. เข้าถึงได้

จาก:www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id=13486&tid=32&gid=1-020.

Health Data Center. ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD, DM, HT, CVD) [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึง

เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561]. เข้าถึงได้จาก:https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?

cat_id=b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b.

กาญจนา มณีทัพ, สมจิต แดนสีแก้ว. สถานการณ์การบริโภคเกลือของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ตำบลทางขวาง อำเภอแวงน้อย จังหวัด

ขอนแก่น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2560. 35(4): 139-49.

สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. ลดเค็ม พิชิตภัยเงียบ [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 16 กันยายน 2562]. เข้าถึงได้จาก:

http://www.thaihypertension.org/files/237_1.LowSalt.pdf.

สำนักสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ; 2561.

ยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียม ในประเทศไทย พ.ศ. 2559-2568. กระทรวงสาธารณสุข; 2559.

Irwan MA, Kato M, Kitaoka K, Ueno E, Tsujiguchi H, Shogenji M. Development of the salt reduction and efficacy-

maintenance program in Indonesia. Nursing and Health Sciences 2016.18:519–32.

สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2562. พิมพ์ครั้งที่ 1. สมาคม

ความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร. 2562.

Kuder GF, Richardson MW. The theory of estimation of test reliability. Psychometrika 1937.2:151-60.

Best JW. Research in Education. 3rd ed. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall, Inc; 1977.

Fleiss JL. Statistical Methods for Rates and Proportions.New York: John Wiley & Sons; 1981.

World Health Organization. The Asia-Pacific perspective: redefinding obesity and its treatment [Internet]. 2000

[Cited 11 October 2018]. Available from:

https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/206936/0957708211_eng.pdf?sequence=1&isAllowed=y

ทิพาพร ราชาไกร. การพัฒนารูปแบบชุมชนลดการบริโภคเค็มในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ

วารสารวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมศึกษา 2562. 4(4): 153-64.

สม นาสอ้าน, ทิพาพร ราชาไกร. การพัฒนารูปแบบลดการบริโภคเค็มในกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูง. วารสารสำนักงานป้องกัน

ควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น 2563. 27(3): 99-110.

พรทิพย์ นิ่มขุนทด. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการรับประทานอาหารเค็มกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจ:

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี; 2559.

ชลธิชา บุญศิริ, นพวรรณ เปียซื่อ, พรรณวดี พุธวัฒนะ, สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการบริโภคอาหารลดโซเดียม

ต่อความรู้และปริมาณโซเดียมในการปัสสาวะของนักศึกษาพยาบาล. วารสารสภาการพยาบาล 2560. 32(3): 104-19.

สายหยุด มูลเพ็ชร์. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. การสำรวจปริมาณโซเดียมที่ขับออกมาทางปัสสาวะและปัจจัยที่มีผลต่อการกินเค็ม

ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นความดันโลหิตสูงโรงพยาบาลตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. 2558.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. รูปแบบการบริการ ป้องกันควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สำหรับสนับสนุนการดำเนินงาน

NCD Clinic Plus. พิมพ์ครั้งที่ 1. จังหวัดนนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2560.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-09-20

รูปแบบการอ้างอิง

ตฤณวุฒิพงษ์ ก., ราชาไกร ท. ., ทุมะลา ป. ., & นาสอ้าน ส. . (2021). ผลของโปรแกรมลดการบริโภคเค็มในกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง เขตสุขภาพที่ 7 . วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 27(3), 43–52. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/251562

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ