ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของผู้รับผิดชอบงานระดับอำเภอ เขตสุขภาพที่ 9 ปี 2562
คำสำคัญ:
ปัจจัยการบริหาร, ปัจจัยแห่งความสำเร็จบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยทางการบริหาร และปัจจัยแห่งความสำเร็จ กับการปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบงานอุบัติเหตุทางถนนในการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับอำเภอ เขตสุขภาพที่ 9 กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้รับผิดชอบงานอุบัติเหตุระดับอำเภอ ในสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลประจำอำเภอ เขตสุขภาพที่ 9 ที่สมัครเข้ารับการประเมินการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับอำเภอ จำนวนทั้งหมด 80 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด สถิติการทดสอบไคสแควร์ และสถิตสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 83.75 มีอายุระหว่าง 36 – 60 ปี ร้อยละ 63.75 โดยมีอายุเฉลี่ย 40.81 ปี (S.D. = 10.75 ปี) และมีสถานภาพสมรส ร้อยละ 57.50 มีระดับการศึกษาปริญญาตรี ร้อยละ 76.25 ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ร้อยละ 83.25 เป็นพยาบาลวิชาชีพ ร้อยละ 66.25 ระดับชำนาญงาน/ชำนาญการ ร้อยละ 66.25 และมีหน้าที่เป็นหัวหน้างานและผู้ปฏิบัติงาน ร้อยละ 50.00 มีรายได้ 10,000 – 20,000 บาทต่อเดือน โดยมีรายได้เฉลี่ย 27,002.03 บาท (S.D. = 15,767.93) และมีระยะเวลาที่ปฏิบัติงานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนน มากกว่า 5 ปี โดยมีระยะเวลาเฉลี่ย 6.48 ปี (S.D. = 5.92) ปัจจัยแห่งความสำเร็จโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (= 3.66, S.D. = 0.50) ปัจจัยการบริหารโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (
= 3.57, S.D. = 0.53) การปฏิบัติงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับอำเภอในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3.72, S.D. = 0.57) ข้อมูลทั่วไปด้านตำแหน่งที่ปฏิบัติงาน มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของผู้รับผิดชอบงานระดับอำเภอ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 และปัจจัยการบริหาร มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของผู้รับผิดชอบงานระดับอำเภอ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 โดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับน้อย (r = 0.456) ส่วนปัจจัยอื่นๆไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของผู้รับผิดชอบงานระดับอำเภอ
เอกสารอ้างอิง
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนระดับอำเภอ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บริษัท รำไทยเพลส จำกัด; 2561.
Herzberg, F. The Motivation to Work. New York: John Wiley and Sons; 1959.
Brown M.W. & Cudeek R. Alliterative ways of assessing model fit, in texting structural equation model. New Jersey: Sage; 1993.
อัญชิสา อยู่สบาย. ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจังหวัดอ่างทอง [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2556.
อมรศักดิ์ โพธิ์อ่ำ. ปัจจัยการบริหารและกระบวนการบริหารที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน สร้างสุขภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในศูนย์สุขภาพชุมชน จังหวัดพิษณุโลก [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต].ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2559.
สุวิชัย ถามูลเลศ. ปัจจัยการบริหารและปัจจัยแห่งความสำเร็จที่มีผลต่อการปฏิบัติงานเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดขอนแก่น [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2560.
สัมพันธ์ บัณฑิตเสน. แรงจูงใจที่มีผลต่อการดำเนินงานตามกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในศูนย์สุขภาพชุมชน จังหวัดหนองคาย [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2558.
งานป้องกันการบาดเจ็บ กลุ่มโรคไม่ติดต่อ. สรุปผลการดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เขตสุขภาพที่ 9. นครราชสีมา: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา; 2562.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. ครึ่งทางทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน. พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ: บริษัท รำไทยเพลส จำกัด; 2560.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
