ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ. 2ส. ของนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, พฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส., นักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์บทคัดย่อ
การศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ของนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (cross-sectional descriptive study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ของนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักศึกษาสาขาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 387 คน เก็บข้อมูลในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 โดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาความสัมพันธ์โดยใช้สถิติไคสแควร์ (chi-square test) และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson's correlation coefficient) ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี (𝒙̅ = 50.83, SD = 5.86) และมีพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส. โดยรวมอยู่ในระดับดี (𝒙̅ = 21.18, SD = 3.28) เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. พบว่า การเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพ การสื่อสารสุขภาพ การจัดการตนเอง การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ และความรอบรู้ด้านสุขภาพในภาพรวม มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ส่วนการตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลัก 3อ.2ส. มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพอยู่ในระดับไม่ถูกต้องและมีการสื่อสารสุขภาพอยู่ในระดับพอใช้ ดังนั้นจึงควรส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพและการสื่อสารสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการร่วมกับการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเสริมและพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพให้สามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรอบรู้ด้านสุขภาพไปสู่ประชาชน เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพตนเองตามหลัก 3อ.2ส. ได้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย (พ.ศ. 2566–2570). พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทุบรี: กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2565.
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เขตสุขภาพที่ 7. การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ [อินเตอร์เน็ต].2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ธันวาคม 20] เข้าถึงได้จาก https://hdc.moph.go.th/ksn/public/standard-subcatalog/6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11
วัชราพร เชยสุวรรณ.ความรอบรู้ด้านสุขภาพ : แนวคิดและการประยุกต์สู่การปฏิบัติการพยาบาล. วารสารแพทย์นาวี 2560; 44(3):183–97.
เบญจวรรณ สอนอาจ. แนวทางการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของประชากรวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล [วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร; 2562.
กองสุขศึกษา. รายงานผลการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ พ.ศ. 2561. [อินเตอร์เน็ต].2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ธันวาคม 20] เข้าถึงได้จาก https://url.in.th/cBYLc
กองสุขศึกษา. ความฉลาดทางสุขภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพมหานคร: นิวธรรมดาการพิมพ์; 2554.
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. รายงานการสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชนไทย อายุ 15 ปี ขึ้นไป พ.ศ. 2562. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: บริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟันนี่ พับบลิซซิ่ง; 2562.
สกาวเนตร ไทรแจ่มจันทร, วัลลภา อันดารา, อุษณีย์ บุญบรรจบ, รฐานุช ถิ่นสอน. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส.ของประชาชนในชุมชนบ้านเอื้ออาทรบางเขน (คลองถนน). วารสารพยาบาลทหารบก 2564;22(3):376–86.
ปาเจรา โพธิหัง.ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในประเทศไทย: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2564;29(3):117–27.
อภิญญา อินทรรัตน์. ความฉลาดทางสุขภาพของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ. วารสารพยาบาลทหารบก 2557;15(3):174–8.
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุ 7–14 ปี) กลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป (ฉบับปรับปรุง ปี 2561). พิมพ์ครั้งที่ 1.นนทบุรี: โรงพิมพ์กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
กิติพงษ์ เรือนเพ็ชร, สุภิศา ขำเอนก, อภิสรากรณ์ หิรัณย์วิชญกุล, สุวรัตน์ ธีระสุต, ศิริลักษณ์ สุวรรณวงษ์. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส.ของนิสิตพยาบาล มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 2566;17(1):1–12.
ทรงทรรศน์ จินาพงศ์, ภัทริศวร์ ดำเสน, นันทรัตน์ ศรีสวัสดิ์. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนบุคคลกับความรอบรู้ด้านสุขภาพ 3อ.2ส. ของนักศึกษาสาขาวิชาพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ. การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ (NGRC) ครั้งที่ 47; 2561 ธันวาคม 6-7; มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม; 2561.
สุนีย์ กันแจ่ม, นิตยา วงสว่าง, ฐานิการ สุวรรณ, ทาริกา สิทธิมงคล, สุดาทิพย์ เตชัย. ความฉลาดทางสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ 2562;3(5):33–43.
จิระภา ขำพิสุทธิ์. ความฉลาดทางสุขภาพและพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2561;24(1):67–78.
พรภัทรา แสนเหลา, เบญจพร สืบทอง, ภิญยารัตน์ เปลี่ยนจันทึก, ปิยะกุล ศิริ, ศุภลักษณ์ โคบำรุง, สิรินยา ผลไธสง และคณะ. ความสัมพันธ์ด้านความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพหลัก 3อ.2ส. ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 14; 2565 กรกฎาคม 7-8; มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.นครปฐม: สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม; 2565.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
