การใช้สารเสพติดที่เกี่ยวข้องการรักษาในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดี
คำสำคัญ:
การใช้สารเสพติด, แอมเฟตามีน, โอปิออยด์, ห้องฉุกเฉิน, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการบทคัดย่อ
บทนำ : ปัจจุบันการใช้สารเสพติดยังเป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย โดยพบว่าข้อมูลชนิดของสารเสพติดและผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทางพิษวิทยายังมีจำกัด
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาลักษณะทางคลินิก ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทางพิษวิทยา และผลลัพธ์ของผู้ป่วยที่มาตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉินด้วยเรื่องเกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด โรงพยาบาลรามาธิบดี จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วิธีการศึกษา : เป็นการศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วยใช้สารเสพติดที่มาห้องฉุกเฉิน ในช่วงเวลา 9 ปี (พ.ศ. 2552-2560)
ผลการศึกษา : การศึกษานี้มีผู้ป่วยทั้งหมด 57 ราย กลุ่มสารเสพติดที่ผู้ป่วยใช้ชนิดเดียวที่พบบ่อย คือ แอมเฟตามีน (ร้อยละ 26.3) กลุ่มโอปิออยด์ซึ่งรวมถึงยาทรามาดอล (ร้อยละ 24.6) กลุ่มยานอนหลับ (ร้อยละ 12.3) และกระท่อม (ร้อยละ 8.8) ผู้ป่วยบางรายใช้สารเสพติดหลายชนิด อาการนำที่พบบ่อย ได้แก่ สับสน (ร้อยละ 33.3) ซึมลง (ร้อยละ 19.3) และชัก (ร้อยละ 14.0) กลุ่มสารเสพติดที่ได้รับการยืนยันทางพิษวิทยาจากเลือดและปัสสาวะด้วยวิธีแมสสเปกโทรมิตรีมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มโอป๊ออยด์ (ร้อยละ 40.5) และกลุ่มแอมเฟตามีน (ร้อยละ 24.3) คำามัธยฐานของเวลาที่อยู่ในห้องฉุกเฉินและรับรักษาในโรงพยาบาล คือ 9 ชั่วโมง และ 4 วัน มีผู้ป่วย 1 รายเสียชีวิตจากภาวะพิษของโอปีออยด์
สรุปผลการศึกษา : แอมเฟตามีน และกลุ่มโอปีออยด์รวมถึงยาทรามาดอลเป็นสารเสพติดที่ถูกใช้และทำให้มารักษาที่ห้องฉุกเฉินมากที่สุด การใช้ประวัติการใช้สารเสพติดร่วมกับการตรวจกลุ่มอาการทางพิษวิทยามีประโยชน์ต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.แนวโน้มสถานการณ์ปัญหายาเสพติดปี 2560. แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 2560. 2560: 1.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.แนวโน้มสถานการณ์ปัญหายาเสพติดปี 2562. แผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และบําบัดรักษายาเสพติด ปี 2562
สถาบันธัญญารักษ์. จำนวนและร้อยละของผู้ป่วยยาเสพติดทั้งหมดของสถาบันธัญญารักษ์ จำแนก ตามปีงบประมาณ2557 -2561. ตุลาคม 2551. [เข้าถึงเมื่อ 2562 กุมภาพันธ์ 8]. เข้าถึงได้จาก :
http://www.pmnidat.go.th/thai/index.php?option=com_content&task=view&id=2738&Itemid=53
ภัทรมณ ยงพานิช และธนศักดิ์ เทียกทอง. อุบัติการณ์และความชุกของการใช้ยาและสารเสพติดในการประกอบอาชญา- กรรม: กรณีศึกษาโรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2018; 12(2): 144-52.
Substance abuse and mental health service administration. Behavioral Health Trends in the United States: Result from the 2014 National Survey on Drug Use and Health. 2015: 4-5.
Substance abuse and mental health service administration. Drug Abuse Warning Network, 2011: National Estimates of Drug-Related Emergency Department Visits. 2013: 13-34.
Wendy L. Macias Konstantopoulos, Jessica A. Dreifuss, Katherine A. McDermott, Blair Alden Parry, Melissa L. Howell, Raul N. Mandler, et al. Identifying Patients With Problematic
Drug Use in the Emergency Department: Results of Multisite Study. Annals of Emergency Medicine 2014; 64(5): 516-25
Butler K, Reeve R, Viney R, Burns L. Estimatint the prevalence of drug and alcohol
presentations to hospital emergency department in NSW, Australia: impact of hospital consultation liaison services. 2016; 26(4): e2641642
Aaron M. Orkin, Chun Zhan, Jason E. Buick, Ian R. Drennan, Michelle Klaiman, Pamela Leece, et al. Out-of-hospital cardiac arrest survival in drug-related versus cardiac cause in Ontario: A retrospective cohort study. PloS ONE 2017; 12(4): 1-14
World Health Organization. Alcohol and drug use disorders: Global Health Estimates. Available at:
Retrieved February 8, 2019.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับตีพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ถือเป็นเป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย
กรณีที่บทความได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยแล้ว จะตีพิมพ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีสำเนาการพิมพ์ภายหลังหนังสือเผยแพร่เรียบร้อยแล้ว ผู้นิพนธ์ไม่สามารถนำบทความดังกล่าวไปนำเสนอหรือตีพิมพ์ในรูปแบบใดๆ ที่อื่นได้ หากมิได้รับคำอนุญาตจากวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย
