ความคิดเห็นต่อการเตรียมความพร้อมกรณีเกิดภาวะภัยพิบัติ ในประเทศไทยระหว่างผู้สูงอายุ เปรียบเทียบกับ คนในวัยทำงานที่มาห้องฉุกเฉิน
คำสำคัญ:
การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ, ผู้สูงอาย, น้ำท่วมกรุงเทพ, ภัยพิบัติเขตเมืองบทคัดย่อ
บทนำ : กรุงเทพมหานครเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรที่อาศัยอยู่มากกว่า 10 ล้านคน ในอดีตกรุงเทพมหานครเผชิญภัยพิบัติมากมาย แต่ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติจำนวนน้อย
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นในการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติ ระหว่างคนในวัยทำงาน (อายุ 15-59 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป)
วิธีการศึกษา : การศึกษาเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง จัดทำที่ห้องฉุกเฉินของคณะแพทยศาสตร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร กลุ่มวิจัยแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มผู้สูงอายุ
ผลการศึกษา : ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งสิ้น 443 คน เป็นกลุ่มวัยทำงาน 200 คน และผู้สูงอายุ 243 คน ค่ามัธยฐานอายุเท่ากับ 40 ปี (พิสัยควอร์ไทล์ 26-51) และ 72 ปี (พิสัยควอร์ไทล์ 67-79) ตามลำดับ กลุ่มวัยทำงานมีระดับการศึกษา รายได้ อัตราการว่างงาน ที่ดีกว่ากลุ่มผู้สูงอายุ (p<0.01) กลุ่มผู้สูงอายุมีปัญหาในการเคลื่อนที่มากกว่าวัยทำงาน (ค่านัยสำคัญทางสถิติ ( P<0.01) ทั้งสองกลุ่มมีผู้ที่เคยเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ ปี พ.ศ.2554 เท่ากัน (ร้อยละ 54.5 และ ร้อยละ 56.8, p = 0.629) กลุ่มผู้สูงอายุคิดว่าตนมีการเตรียมการรับมือภัยพิบัติอย่างเพียงพอซึ่งมีอัตราสูงกว่ากลุ่มวัยทำงาน (p<0.01) ขณะที่ด้านการเตรียมความพร้อมจริง ไม่แกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ด้านการสื่อสารพบว่ากลุ่มวัยทำงานมีความสามารถในการติดต่อขอความช่วยเหลือมากกว่ากลุ่มผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญ ในด้านชุมชนพบว่ามีการเตรียมตัวน้อยเท่ากันในทั้งสองกลุ่ม ทั้งสองกลุ่มสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวได้ทันทีเท่ากันทั้งสองกลุ่ม
สรุปผลการศึกษา : ผู้สูงอายุส่วนใหญ่คิดว่ามีความรู้ในการเตรียมพร้อมรับมือต่อภัยพิบัติมากกว่ากลุ่มวัยทำงานอย่างไรก็ตามพบว่าการเตรียมความพร้อมจริงนั้นไม่แตกต่างกันในทั้งสองกลุ่ม การศึกษาในอนาคตควรมุ่งไปที่การเพิ่มการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติที่ดีขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. สถิติสถานการณ์อุทกภัยของประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2532-2553 [Internet] Cited 2016 Dec 26] .เข้าถึงได้จาก: http:/www.flood.rmutt.ac.th/?wpfbdl=4
กรมอุตุนิยมวิทยา, ภัยธรรมชาติในประเทศไทย [Inter-net[Cited 2016 Dec 26]. เข้าถึงได้จาก: https://www.tmd.go.th/info/risk.pdf
Morin VM, Ahmad MM, Warnitchai P. Vulner-ability to typhoon harzards in the coastal informal settlements of Metro Manila, the Philippines. Disaster 2016:40(4):693-719.
ปราโมทย์ ประสาทกุล, บรรณาธิการ.สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2556.กรุงเทพ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับบลิขชิ่ง:2557.เข้าถึงได้จาก: fle:///C:/Users/Administrator/Downloads/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%0%B8%A3%E0%B893%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%AA. 2556 THAl.pdf
Al-rousan TM, Rubenstein LM, Wallace RB. Preparedness for natural disasters among older US adults: A national wide survey. Am J Public Health . 2014:104:506-11
Daugherty JD, Hilary E, Blake S, Howard. Disasterpreparedness in health and personal-careagencies: Are they ready?. Gerontology.2012:58(4):322-30
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ. ประวัติศูนย์. [Internet] [Cited 2016 Dec 28] .เข้าถึงได้จาก:http://ww.ndwc.go.th/ประวัติศูนย์/
Yoda T, Yokoyama K, Suzuki, Hirao. Rela-tionship between long-term flooding and serious mental illness after the 2011 flood in Thailand. Disaster Med Public Health Prep 2017;11(3):300-4.
Noji EK. The public health consequences of dis-aster. Prehosp Disaster Med 2000;15(4):147-57.
NING Yan, Tao MF, Hu JF, Li YB, Cheng YL, Wanh JJ, et al. Status of household disaster preparedness and affecting factors among the general public of four counties in Shaanxi, Chin J Prev Med, 2013.47(04): 347-51.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับตีพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ถือเป็นเป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย
กรณีที่บทความได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยแล้ว จะตีพิมพ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีสำเนาการพิมพ์ภายหลังหนังสือเผยแพร่เรียบร้อยแล้ว ผู้นิพนธ์ไม่สามารถนำบทความดังกล่าวไปนำเสนอหรือตีพิมพ์ในรูปแบบใดๆ ที่อื่นได้ หากมิได้รับคำอนุญาตจากวารสารเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย
