พฤติกรรมและอุปสรรคในการออกกำลังกายของนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้จุดประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมและอุปสรรคในการการออกกำลังกายของนักเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) จำนวนทั้งสิ้น 362 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบประสมประสาน ประกอบด้วย แบบสอบถามแบบเลือกตอบ (Check lists) แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีการของลิเคอร์ท (Likert’s rating scale) และแบบสอบถามแบบปลายเปิด (open ended question) ซึ่งมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาจากการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย (IOC) ในภาพรวมทั้งฉบับ เท่ากับ 0.73 และมีความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 สถิติสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย การหาความถี่ (frequency) ค่าร้อยละ (percentage) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ส่วนใหญ่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกออกกำลังกายในวันอาทิตย์ เวลา 16.00 -18.00 น. ออกกำลังกายคนเดียว จุดประสงค์หลักที่ออกกำลังกาย คือเพื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง สถานที่ที่นักศึกษาออกกำลังกาย คือสวนสาธารณะเพราะใกล้บ้าน ในแต่ละครั้งนักศึกษาได้อบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ระยะเวลา 5-10 นาที และคลายอุ่น (cool down) โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อครั้งละ 5-10 นาที มีการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนเลือด (cardiovascular efficiency) ด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ 30 นาที สร้างเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strength exercise) โดยใช้อุปกรณ์ฝึกด้วยน้ำหนักเป็นบางครั้ง 1-2 วันต่อสัปดาห์ และใช้เวลาในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง 20-30 นาที ขณะเดียวกันก็ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อ (flexibility exercise) อย่างสม่ำเสมอ 1-2 วันต่อสัปดาห์ โดยใช้ระยะเวลาในการออกกำลังกายน้อยกว่า 20 นาที 2) นักเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร มีอุปสรรคในการออกกำลังกายที่สำคัญ 4 ประการ คือ สภาพดินฟ้าอากาศไม่อำนวย ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย มีภารกิจมากไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย และสภาพของร่างกายไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Chanlak Yiammirt. (2013). A Study of exercise behaviors of Rajabhat Rambhai Barni University academic year 2011. (Master’s Thesis). Srinakharinwirot University.
Charoen Krabuanrat. (2010). Exercise for Health: Knowledge that Still Needs Understanding. Retrieved October 17, 2553, from http://hp.anamai.moph.go.th/download/document exercise%20simplyline.pdf.
Department of Physical Education. (2012). Aerobic Dance. Bangkok: Ladprao Teachers Council Press.
Division of Physical Education. (2012). Aerobic Dance. Bangkok: Ladprao Teachers Council Press.
Division of Physical Education. (1991). Guidelines for the Development of Sports Science in Thailand. Bangkok: Ladprao Teachers Council Press.
Health Systems Research Institute. (2009). The Fourth Thai People Health Survey ReportUtilizing Physical Examination Method BE. 2551-2552. (4th ed.). Nonburi: The Grafigo
System.
Kulthida Maouphet, Komkrit Chaupanit, Ponpen Lapho, & Wasitthi Thiamthaokert. (2012). Exercise behaviors of Kasetsart University Personnel, Kampangsan Campus (Research Report). Nakhonpathom: Faculty of Education and Development Sciences.
Ministry of Tourism and Sports. (2016). The Sixth National Sports Development Plan B.E. 2560-2564. Bangkok: The War Veterans Organization of Thailand Press.
Puangrat Thaweerat. (1997). Behavioral and Social research Methodology. Bangkok: Srinakharinwirot University Prasanmirt.
Raja Syed Tengku Sulaiman. (2014). Triathlon. Krabi: Institute of Physical Education Krabi Campus, Faculty of Education.
Udomsil Srisaeangnam. (2002). Running into a New Life. Bangkok: Moochaoban.
Suchat Sitthiwong. (2018). Exercise behaviors and barriers of undergraduate student in Suratthani Rajabhat University. (Master’s Thesis). Institute of Physical Education Krabi Campus.