ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง“ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร รูปแบบการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัย เชิงพรรณนา ศึกษาเชิงสหสัมพันธ์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำ ได้แก่ ความรู้ เจตคติ การรับรู้ประโยชน์ และความเชื่อความสามารถในตนต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ ปัจจัยเอื้อในด้านการมีทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ และนโยบายด้านการส่งเสริมสุขภาพของหน่วยงาน และปัจจัยเสริมด้านการได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ และการได้รับการสนับสนุนจากคนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ ทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนจากบุคลากรสายวิชาการ และสายสนับสนุนทั้ง 5 คณะ รวม 149 คน จากทั้งหมด 245 คน ร้อยละ 60.82 เก็บรวมรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84 และค่าความเที่ยงตรงเท่ากับ 1
ผลการวิจัยพบว่า 1. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร พบว่า ระดับความรู้ มีความสัมพันธ์ทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .383) ระดับการรับรู้ประโยชน์ มีความสัมพันธ์ทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .365) และระดับความเชื่อความสามารถในตน มีความสัมพันธ์ทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .540) ส่วนระดับ เจตคติ ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .058)
- ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเอื้อกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร พบว่า ระดับของปัจจัยเอื้อในด้านการมีทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .238) และระดับของปัจจัยเอื้อในด้านการมีนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพในหน่วยงานมีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .217)
- ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสริมกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร พบว่า ระดับของปัจจัยเสริมในการได้รับข้อมูลข่าวสารด้านการส่งเสริมสุขภาพจากสื่อต่างๆ มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .482) และระดับของปัจจัยเสริมในการได้รับการสนับสนุนจากตนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .532)
ดังนั้นควรสร้างความเชื่อความสามารถในตน และส่งเสริมให้บุคลากรได้รับการสนับสนุนจากตนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของบุคลากรให้มีสุขภาวะที่สมบูรณ์
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Division of Non Communicable Diseases. (2009). Guidelines for the prevention and control of non-communicable diseases for public health officers. Nonthaburi: National Office of Buddhism.
Kongmanee Surawongsin. (2008). Factors relating to health promotion behaviors of health personnel in permanent secretary ministry of public health. (Master’s thesis). Kasetsart University.
Ministry of Public Health. (2016). The twelfth National Health Development Plan (2012 - 2016). Bangkok.
Nattaporn Paladesh. (2005). Self-care behavior of professional nurses in Bangkok Metropolitan Administration General Hospital. (Master’s thesis). Kasetsart University.
Nithinan Charoenbundith. (2016). Factors related to health promoting behaviors among village health volunteers. (Master’s thesis). Burapha University.
Oraphun Phromchoeiteera. (2006). Factors affecting health promotion behaviors of student nurses: A case study of Royal Thai Army Nurse. (Master’s thesis). Kasetsart University.
Pender, N.J. (1996). Health Promotion in Nursing Practice. Connecticut: Appleton & Lange, New York.
Pender, N.J., Murdaugh, C.L., & Parsons, M.A. (2002). Health Promotion in Nursing Practice. (4th ed.). New Jersey: Pearson Education.
Pender, N.J., Murdaugh, C.L., & Parsons, M.A. (2006). Health Promotion in Nursing Practice. (5th ed.). New Jersey: Prentice Hall.
Rudchanee Pewthong. (2003). Health behaviors of the students of Rajamangala Institute of Technology North Bangkok Campus. (Master’s thesis), Kasetsart University.
Strategy and Planning Division Ministry of Public Health. (2014). Strategy Indicators and data collection guidelines Ministry of Public Health Annual Report 2014. Bangkok.
Tawat Wichianprapha, Pornnapa Homsin, and Rungrat Srisuriyawet. (2012). Factors Affecting health behaviors of health volunteers, Chanthaburi Province. The Public Health Journal of Burapha University, 7(2), 53-68.
Wandee Peuem. (2018). The relationship between knowledge and exercise behaviors of Institute of Physical Education Chonburi Campus the first year students In academic year 2015. Academic Journal Institute of Physical Education, 10(2), 193-202.
Wipawee Worawitwattana. (2013). Factors relating to health promoting behaviors of military officers under jurisdiction of The Ratchaburi Military District. (Master’s thesis). Kasetsart University.
