การสร้างแบบตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จ ของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย

Main Article Content

กมลพัชร วิสุทธิภักดี
อิษฎี กุฎอินทร์
วิชากร เฮงษฎีกุล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย 2) เพื่อสร้างแบบตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยในเชิงคุณภาพ เครื่องมือในงานวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึก ได้ตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน  5 ท่าน และได้นำไปทดสอบ และปรับปรุงเครื่องมือก่อนนำมาเก็บข้อมูลจริง การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยศึกษาจากการทบทวนวรรณกรรม ข้อมูลเอกสารต่างๆ และการสัมภาษณ์เชิงลึก ใช้วิธีผสมผสมผสาน การบันทึกเสียง ควบคู่กับการจดบันทึกข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการสรุปความคิดเห็น และถอดเทปในการหาเนื้อหา กลุ่มตัวอย่างใช้การสุ่มแบบเจาะจง ซึ่งได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่มี ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะความสามารถ และมีประสบการณ์ ด้านการออกกำลังกายแบบการปั่นจักรยาน จำนวนทั้งสิ้น 58 ท่าน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้บริหารสนามจักรยาน ทั้งในภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จำนวน 9 คน กลุ่มที่ 2 กลุ่มนักปั่นจักรยาน ที่ปั่นในสนามจักรยาน เลนจักรยาน ในที่สถานที่ต่างๆ ทั้งในภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จำนวน 50 คน รวม 8 แห่ง ในการเก็บข้อมูล


โดยวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอนการดำเนินการวิจัยในแต่ละขั้นมาสรุป วิเคราะห์ สังเคราะห์ จนจัดกลุ่มข้อมูลตามประเด็นของการศึกษาวิจัย และนำเสนอในรูปแบบ โมเดลและข้อมูลในแบบพรรณนา สรุปผล การวิจัย ดังนี้ โมเดลการสร้างแบบตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย ที่ได้มาตรฐานระดับประเทศ จนถึงระดับสากล ประกอบไปด้วย 5 มิติที่สำคัญ ได้แก่ มิติที่ 1 ความเป็นรูปธรรมของการบริการ มิติที่ 2 ความเชื่อถือไว้วางใจได้ มิติที่ 3 การตอบสนองต่อลูกค้า มิติที่ 4 การให้ความเชื่อมั่นต่อลูกค้า มิติที่ 5 การรู้จักและเข้าใจลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการ PDCA และทฤษฎีระบบจัดการ ตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จในการค้นพบได้แก่ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ กับกระบวนการ PDCA และทฤษฎีระบบจัดการที่มีคุณภาพ คือ ความปลอดภัย เป็นลำดับที่ 1 สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น ระยะทางของเลนจักรยานต่อรอบ เป็นอันดับที่ 2 และการให้บริการต่างๆ เป็นอันดับที่ 3 ซึ่งมีตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จในด้านต่างๆ สะท้อนโมเดลที่ได้คือทฤษฎีย้อนกลับสู่ตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วิสุทธิภักดี ก. ., กุฎอินทร์ อ. ., & เฮงษฎีกุล ว. (2019). การสร้างแบบตัวชี้วัดผลงานความสำเร็จ ของสนามจักรยานเพื่อออกกำลังกาย. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 11(2), 1–17. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/244613
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2559). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2560-2564. กอง บรรณาธิการ “เส้นทางเศรษฐี. 2557.ปั่น พันล้าน จักรยานที่รัก. กรุงเทพมหานคร. สำนักพิมพ์มติชน.

คู่มือการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2555-2559). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การค้าของ สกสค.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2554). การสำรวจพฤติกรรมการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายของประชากร คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2552. รายงานการพัฒนาตัวบ่งชี้และเครื่องมือวัด

ตัวบ่งชี้ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ มาตรฐานที่ 2 แนวทางการจัดการศึกษาและมาตรฐานที่ 3 แนวการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้/สังคมแห่งความรู้. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภา การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.

เอกชัย บุญยาทิษฐาน. (2553). KPI หัวใจนักบริหาร ตัวชี้วัดสมรรถนะหลัก.กรุงเทพมหานคร. บริษัท ส.เอเชียเพรส (1989) จำกัด.

อภิชัย ศรีเมือง. (2556). KPI เพื่อประเมินความสำเร็จของหัวหน้างานสำหรับผู้บริหาร. นนทบุรี. บริษัท ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์ จำกัด.

Director Division of Arts & Social Sciences University of Education, LowerMall Campus Lahore.

Davis, K. and W. N. Johnใ (1989). Human Behavior at Work: Organizational Behavior. New York: McGraw-Hill Book Company.

Ernest, D. R. 1968. Management : Theory and Practice. McGraw-Hill Book Company, New York.

Griffin, R. W. (1999). Management. 6th ed. Boston Houghton Griffin.

Gulick, L. and L. Urwick (eds.). 1937. Paper on the Science of Administration.

ILLICH, I. (1974). Energy and Equity. New York: Harper & Row.

Kraiseehanat, Rattana. (1991). A Comparative Study of Self-Concept, Mental Health, and Work Satisfaction between Professional Nurse, and Technical Nurse.

Marjorie, C. H. (1986). Pattern of Aging and Social Supports in United States. New York: Fordham University.

Maslow, A. M. (1954). Motivation and Personality. New York: Harper and Row.

Mooney, J. D. and A. C. Reiley. (1931). Onward Industry! The Principles of Organization.

Nadeem, M. (2012). Participative Management Style: A Tool to Enhance Quality Education (Online). www.drmanage.com, June 19, 2017. New York: Institute of Public Administration, Columbia University.

Taylor, F. W. (2002). The Principles of Scientific Management. New York: Harper