การสร้างเครื่องมือวัดความสามารถทางกลไล ในการเตะของนักกีฬาเทควันโด

Main Article Content

ศรีล สุวรรณแสง
ชัยพัฒน์ หล่อศิริรัตน์

บทคัดย่อ

การพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวนับเป็นสิ่งที่สำคัญกับนักกีฬา สมรรถภาพทางกายที่สำคัญที่ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพของนักกีฬาเทควันโด คือ การทำงานประสานกันของตาและเท้า (Eye-Foot Coordination) ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีเครื่องมือที่ใช้วัดการทำงานประสานกันของตาและเท้าได้โดยตรง ผู้วิจัยจึงต้องการสร้างเครื่องมือที่สามารถวัดการทำงานประสานกันของตาและเท้าในนักกีฬาเทควันโดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นตัวช่วยจัดระดับความสามารถในการเตะในนักเทควันโดได้ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครื่องมือวัดการทำงานประสานกันระหว่างตาและเท้าในนักกีฬาเทควันโด ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือวัดการทำงานประสานกันระหว่างตาและเท้าทั้งหมด 3 ขั้น ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาเอกสาร ตำรา บทความ และรายงานการวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่าการทำงานประสานกันเป็นส่วนประกอบของความสามารถ 3 ด้าน นั่นคือ เวลาปฏิกิริยา ความแม่นยำ ขั้นตอนที่ 2 สร้างเครื่องมือโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ได้ศึกษามา ได้เครื่องมือสองส่วนคือ ส่วนแท่นเหยียบและส่วนกระสอบทรายรับแรงเตะ ซึ่งทั้งสองส่วนจะทำงานคู่กันได้ผลการวัดออกมาเป็นเวลาที่ใช้ในการทดสอบและจำนวนตำแหน่งที่เหยียบตามไฟติดถูก ขั้นตอนที่ 3 ตรวจวัด และทดสอบเครื่องมือและปรับปรุงให้มีความตรงและเที่ยง โดยผู้วิจัยมีการหาค่าความตรง Validity โดยผู้เชี่ยวชาญ
มีค่าเท่ากับ 0.67 และค่าความเที่ยง จากการทดสอบนำนักกีฬาเทควันโดจำนวน 20 คน โดยวิธีใช้สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน มีค่าเท่ากับ 0.75 จากการทดสอบทั้งสองแสดงว่าเครื่องมือมีค่าความตรงและเที่ยงที่ดี สามารถนำไปใช้วัดการทำงานประสานกันของตาและเท้าได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุวรรณแสง ศ., & หล่อศิริรัตน์ ช. . (2019). การสร้างเครื่องมือวัดความสามารถทางกลไล ในการเตะของนักกีฬาเทควันโด. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 11(2), 105–117. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/244690
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Anshel, M. (1990). Sport psychology: From theory to practice. Scottsdale: Gorsush Scarisbrik.

Choi, H. H. (2006). Taekwon-Do and Physical Fitness. Retrieved February 12, 2009.

Cromwell, E. Ronita. (2007). Tae Kwon Do: An Effective Exercise for Improving Balance and Walking Ability in Older Adults. The Journals of Gerontology: Series A, 62(6), 641–646.

Hoeger, W.W.K. (1989). Lifetime physical fitness and wellness. Colorado: Morton Publishing.

Ketsiri, Y. (1997). Taekwondo. Bangkok: mitsamphan. [in Thai].

Kim, S. (1993). A Biomechanical Analysis of Taekwondo Front Thrust Kick. Dissertation Abstracts International, University of Wisconsin, Madison.

Kusonwong, P. (2009). Summer Universiade of taekwondo speech. Belgrade, Serbia.

Lee, K. (1998). Parental Expectation and Satisfaction Concerning Taekwondo Center in Taejon city and Chung-cheong Province. Dissertation Abstracts International, United States Sports Academy, The Republic of Korea.

Nimmit, W. (1997). The effect of agility and power training on the speed of roundhouse kick in Taekwondo. (Master’s thesis, Srinakharinwirot University). [in Thai].

Phadan, R. (2014). Fine moter ability of early childhood children enhancing patching and tearing creative art activity, (Master’s thesis). Srinakharinwirot Universiry.

Phromma, V. (2004). A comparison of effects of training muscle strength and muscle power upon round kick ability in Taekwondo. (Master’s thesis). Srinakharinwirot University). [in Thai].

Saladin, Kenneth. (2010). Anatomy and Physiology: The Unity of Form and Function. New York: McGraw-Hill Companies Inc.

Silamat, S. (2004). Principle of training for coach. Bangkok: chulalongkorn university press. [in Thai].

Sirianan, S. & Photchanaari, P. (2003). Taekwondo the martial art. Bangkok: mitsamphan. [in Thai].

Yotwong, V. (2004). Taekwindo training manual of Institute of Physical Education. Bangkok. Kurusapa Printing Press.