การศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของค่ายมวยไทย ในการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เขตภาคเหนือตอนบน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของค่ายมวยไทย ในการให้ บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เขตภาคเหนือตอนบน โดยใช้องค์ประกอบทางการท่องเที่ยว และส่วนผสมทาง การตลาด ใช้วิธีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ (Quail-quant Technique) ศึกษาข้อมูลด้านทุติยภูมิผ่านทางอินเตอร์เน็ตและสิ่งพิมพ์ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้จัดการและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาใช้บริการค่ายมวย จำนวน 24 แห่ง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC ตั้งแต่ 0.67-1.00 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่และร้อยละ หาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
องค์ประกอบทางการท่องเที่ยว (5A)
- สิ่งดึงดูดใจ (Attraction) ประเทศไทยเป็นต้นกำเนิดของมวยไทย เป็นศิลปวัฒนธรรมประจำชาติไทยนักมวยไทยเป็นเจ้าของค่ายมวยไทย ครูมวยเคยเป็นนักมวยอาชีพ ราคาถูก อยู่แบบครอบครัว
- กิจกรรม (Activities) ค่ายมวยไทยส่วนใหญ่ไม่มีกิจกรรมเสริมนอกจากการสอนแม่ไม้มวยไทย
- การเข้าถึง (Access) มีค่ายมวยไทยกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย การคมนาคมสะดวก
- สิ่งอำนวยความสะดวก (Amenities) ค่ายมวยส่วนใหญ่จะมีห้องออกกำลังกายขนาดเล็ก ที่นั่งสำหรับพักผ่อน มุมขายอาหารและน้ำดื่ม ส่วนค่ายมวยขนาดใหญ่อาจมีสระว่ายน้ำ สนามบาสเก็ตบอล
- ที่พัก (Accommodation) ค่ายมวยไทยส่วนใหญ่ไม่มีที่พักภายในค่าย ค่ายมวยขนาดเล็กและขนาดกลางบางที่มีการจัดที่พักไว้ให้ชาวต่างชาติ มีตั้งแต่พออยู่ได้ไปจนถึงแบบหรูหราสะดวกสบาย
ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix 4Ps)
- ผลิตภัณฑ์ (Product) ค่ายมวยไทยส่วนใหญ่มีคอร์สให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกไม่มากนัก ค่ายมวยขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จะมีคอร์สให้เลือกมากมาย และมีแพ๊คเกจให้เลือกหลายรูปแบบ
- ราคา (Price) ราคาถูก คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย
- ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) ค่ายมวยไทยส่วนใหญ่โฆษณาผ่านเฟสบุ๊ค และการบอกต่อ ส่วนค่ายมวยขนาดกลางและใหญ่โฆษณาผ่านเว็บไซต์ บริษัททัวร์ บริษัทโฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
4. การส่งเสริมการขาย (Promotion) ลดราคาช่วงโลซีซั่น ฟรีน้ำดื่ม ผ้าขนหนู สอนทำอาหาร
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Bizpromptinfo. (2017). Think outside to meet business trends “Wellness Tourism”. Retrieved from http://www.bizpromptinfo.com/biznews/
Bookmartialarts. (2017). Muay Thai Camps in Chiang Mai. Retrieved from https://www.bookmartialarts.com/all/d/asia-and-oceania/thailand/chiang-mai
Chanchai Yomdit. (2016). Living condition of the foreign tourist who learned Muay Thai in Muay Thai Gym. Ratchaburi: Ban Chom Bueng Rajabhat University.
Napapas Chusuwan. (2016). Marketing factors influence demand for foreigners to come to watch Thai boxing. (Master’s thesis). Bangkok University.
Raja Syed Tengku Sulaiman, Wanna Pitaksan, Kantinut Satiramanus. (2011). Muay Thai: A green season commercial innovation on the Andaman area. Bangkok: The Thailand Research Fund.
Santai Muay Thai. (2017). Training price. Retrieved from http://muay-thai-santai.com/prices/
Team Quest Thailand. (2017). Training price. Retrieved from http://tqmmathailand.com/prices/
Thai Publica. (2017). EIC Business analysis “Wellness Tourism”: Think outside answer the consumer trend. Retrieved from https://thaipublica.org/2017/10/eic-analysis-wellness-tourism-4-10-2017/
Winai Poolsri. (2012). Muay Thai: Management of Thai wisdom for international business. (Doctoral dissertation). Mahasarakham University.