การพัฒนาแบบวัดการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชนอายุ 12-15 ปี

Main Article Content

ไชยพงศ์ ศุภ์ธนัชภัคชนา
ธรรมนันทิกา แจ้งสว่าง
นฤพนธ์ วงศ์จตุรภัทร

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบวัดการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชน อายุ 12-15 ปี  และเพื่อศึกษาปัจจัยการกำกับตนเองที่ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชน อายุ 12-15 ปี ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยดำเนินการศึกษากับประชากรที่เป็นนักกีฬากอล์ฟเยาวชนสมาชิกของสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อายุ 12-15 ปี จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating scale) จำนวน 50 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ โดยใช้ค่าเฉลี่ย (gif.latex?\bar{x}) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นโดยหาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของคอนบราค และหาค่าอำนาจจำแนกรายข้อ โดยใช้ค่าสหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนรายข้อกับคะแนนรวม (Item-total correlation) การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน  และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน


          ผลการวิจัยพบว่า


  1. นักกีฬากอล์ฟเยาวชน อายุ 12-15 ปี มีการกำกับตนเองอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งโดยรวมและรายด้าน ซึ่งมีการกำกับตนเองด้านพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องมากที่สุด รองลงมา คือ การสังเกต และการวางแผนในการซ้อม ตามลำดับอย่างต่อเนื่อง มีค่าความเชื่อมั่น .89, .92 และ .94 ตามลำดับ และมีค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง .21 - .82

  2. แบบวัดการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชนที่สร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .96 ในรายด้านการวางแผนในการซ้อม ด้านการสังเกต และด้านพฤติกรรม

  3. โมเดลองค์ประกอบการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชนมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ดี (gif.latex?\chi2= 1134.252, df = 1069, p = .081, gif.latex?\chi2 /df = 1.061, RMSEA = .023, NFI = .961, NNFI = .990, CFI = .991, RMR = .048, SRMR = .048, GFI = .924, AGFI=.907) โดยค่าน้ำหนักองค์ประกอบด้านการวางแผนในการซ้อมด้านการสังเกตและด้านพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง เท่ากับ .993, .974 และ .950 ตามลำดับ และค่าน้ำหนักองค์ประกอบของตัวบ่งชี้ในแต่ละองค์ประกอบ มีค่าระหว่าง .21 - .86 ซึ่งทุกค่ามีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  4. การกำกับตนเองโดยรวม ด้านการวางแผนในการซ้อม ด้านการสังเกต และด้านพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟของเยาวชน อายุ 12-15 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ .348, .324, .322 และ .352 ตามลำดับ

          5. ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟของเยาวชน อายุ 12-15 ปี ได้แก่ พฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง (B = 8.25, gif.latex?\beta= 0.35) ซึ่งสามารถทำนายความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟ ได้ร้อยละ12 (R2 = 0.12)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศุภ์ธนัชภัคชนา ไ. . ., แจ้งสว่าง ธ. ., & วงศ์จตุรภัทร น. . . (2020). การพัฒนาแบบวัดการกำกับตนเองในการเล่นกีฬากอล์ฟเยาวชนอายุ 12-15 ปี. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 13(1), 53–63. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/248335
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Chanadda Prommee. (2007). Effect of self –regulation program on discipline in sport training of team sport athletes age 12-15 years old at Suphan Buri Sport School. Bangkok: Kasetsart University.

Chicago Board of Education [CBE]. (2000). Introduction to Score Rubrics. Retrieved from http//intranet.cps.k12.il.us/Assessment/Ideas_and_Rubrics/Intro_Scoring/Intro_scoring.html

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of Psychological Testing (5thed). New York: HarperCollins.

Kline, R. B. (2010). Principles and practice of structural equation modeling (3rd ed.). New York: Guilford Press.

Siamsport Timeout. (2018). Tiger Woods says 'it's so cool' to watch son Charlie play, enjoy golf. Retrieved from http://www.espn.com/golf/story/_/id/30539758/tiger-woods-says-cool-watch-son-charlie-play-enjoy-golf

Sompoch Iamsuphasit. (2007). Theories and techniques in behavior modification (2nd ed.). Bangkok: Chulalongkorn Press.

Supamas Angsuchot (2011). The statistic for social science and behavioral science: The technique of LISREL. Bangkok: Multimedia.

Zimmerman B. J. (1989). A social cognitive view of self-regulated academic learning. Journal of Educational Psychology, 81(3), 329-339.