การพัฒนารายวิชามวยไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารายวิชามวยไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนละ 60 คน ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยทำการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบรายวิชามวยไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 2) แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐาน (Norms) สมรรถภาพทางกาย สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3) แบบวัดความรู้รายวิชามวยไทย 4) แบบทดสอบทักษะมวยไทย 5) แบบวัดเจตคติเกี่ยวกับรายวิชามวยไทย 6) แบบวัดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนในรายวิชามวยไทย และ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรายวิชามวยไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทำการทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติที กรณีข้อมูล 2 กลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน (Paired-samples t-test) และกรณีค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มเดียว (One Sample t-test)
ผลการวิจัยพบว่า เอกสารประกอบรายวิชามวยไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น สามารถใช้เป็นแนวทางและต้นแบบในการจัดการเรียนการสอนมวยไทยในสถานศึกษาได้
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Battistelli, A., F. Montani, M. Guicciardi & L. Bertinato. (2016). Regulation of exercise behaviour and motives for physical activities: The Italian validation of BREQ and MPAM-R questionnaires. Psychologie française, 61(4), 333-348.
Boonlert Utayanik. (2010). Development of health-care competence in late adolescence students (Doctoral dissertation), Kasetsart University.
Cronbach, L.J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16(3), 297-334.
Kirkendall, D.R., Gruber, J.J. & Johnson, R.E. (1980). Measurement and evaluation for physical educators. Dubuque, Iowa: William C Brown.
Ministry of Education. (2008). The Basic Education Core Curriculum B.E.2551. Bangkok: Agricultural Cooperative Federation of Thailand., LTD.
Myers, T.; Balmer, N.; Nevill, A. & Al-Nakeeb, Y. (2013). Techniques used by elite Thai and UK Muay Thai fighters: An analysis and simulation. Advances in Physical Education, 3(4), 175-186.
Nitinan Pugabin. (2015). The effects of training Keita Muay Thai, Muay Thai aerobics, and aerobics dance affecting the physical fitness of Mathayom Suksa 5 students (Bachelor’s thesis), Mahasarakham University.
Sangat Utranan. (1989). Fundamentals and principles of curriculum development. Bangkok: Chulalongkorn University.
Supitr Samahito et al. (2010). Test and standard of physical fitness in Thai children age between 7-18. Bangkok: Sport Science Center.
Torsak Kaewjaratwilai. (2011). Curriculum development of Thai boxing courses, lower-secondary school based on the Basic Education Core Curriculum B.E.2551 (Doctoral dissertation), Muban Chombueng Rajabhat University.
Wichai Wongyai. (1994). Curriculum development process and hands-on instructions. Bangkok: Suweeriyasan.
Winai Sirivech. (2006). Developing a STAD learning activity lesson plan, Muay Thai, physical education subject of Mathayom Suksa 3 students (Master’s thesis), Mahasarakham University.
