การพัฒนาชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมี เรื่อง ปฏิกิริยาเคม
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมี เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมี เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียน เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีโดยใช้ชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมีโดยกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรีชั้นปีที่ 1 ที่เรียนรายวิชาเคมีทั่วไป จำนวน 25 คน โดยการสุ่มแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1)ชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมีเรื่อง ปฏิกิริยาเคมี 2)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ปฏิกิริยาเคมี3)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมีเรื่อง ปฏิกิริยาเคมี
ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมีเรื่อง ปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพของกระบวนการ/ผลลัพธ์เท่ากับ 78.6/79.2 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์75/75 2) นักศึกษาที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมีเรื่อง ปฏิกิริยาเคมีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมระดับความคิดทางเคมี เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีภาพรวมระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 + 0.46
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
น้ำฝน คูเจริญไพศาล. (2556). การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่องสารชีวโมเลกุลสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
นินนาท์ จันทร์สูรย์. (2553). การศึกษาการอธิบายปรากฏการณ์ทางเคมี 3 ระดับของผู้เรียนเคมี. คณะวิทยาศาสตร์. มหาวิทยาลัยทักษิณ.
บุญเกื้อ ควรหาเวช. (2542). นวัตกรรมทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: SR printing.
สมจิต สวธนไพบูลย์, สายพิณ กิจจา, (2550). การวิจัยและพัฒนาชุดกิจกรรมการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกิจกรรมหลากหลาย. ศูนย์วิทยาศาสตร์ศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ฮามีด๊ะ มูสอ. (2555). การพัฒนาแบบจำลองความคิดเรื่อง กรด-เบส ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Chiu, M.H.and W.N.Lin. (2007).Exploring the characteristics and diverse sources of students’ mental models of acids and bases. International Journal of Science Education. 29(6): 771-803.
Coll,R.K. (1999).Learners’ mental models of chemical bonding. Thesis of Doctor Degree: Curtin University of Technology.
Gentner, D. and A. Stevens (eds). (1983). Mental Models, Hillsdale, NJ: Erlbaum.
Gilbert, J.K. (2005). Visualization in Sciennce Education. Netherlands: Springer.
Good. (1973). Dictionary of Education. (3rd) New York: McGraw-Hill.
Harrison, A. G.and D.F.Treagust. (1996).Seconclary students’ mental models of atoms and molecules: Implications for teaching chemistry. Science Education. 80(5): 509-534.
Harrison, A. G. and D. F. Treagust. (2006). Teaching and learning with analogies. In P. J.
Justi, R. and J. Gilbert (2002). Models and modeling in chemical education.In J.K. Chemical education: Towards research-based practice. Boston: Kluwer Academic Publishers: 47-68.
Norman, D.A. (1983). Some observations on mental models. In D. Gentner and A.L. Stevens (eds.), Mental Models. Hillsdale, NJ: Erlbaum.