การพัฒนาชุดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และเพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฯ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การสร้างและทดสอบคุณภาพชุดกิจกรรมฯ และระยะที่ 2 การทดสอบประสิทธิผลของชุดกิจกรรมฯ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เป็นเครือข่ายโรงเรียน อย. น้อย จำนวน 367 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน แบ่งเป็น กลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัยฯ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัยตามปัจจัยเชิงสาเหตุฯ เก็บรวบรวมข้อมูลในระยะก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ หาค่าเฉลี่ย และการทดสอบค่าที (t-test)
จากการวิจัย มีข้อค้นพบที่สำคัญดังนี้
- ชุดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัย ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 6 แผน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 3 แผน แต่ละแผนกิจกรรมประกอบด้วย 8 องค์ประกอบ
- ค่าดัชนีความสอดคล้องความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาองค์ประกอบและเนื้อหากิจกรรมของชุดกิจกรรมฯ ที่สร้างขึ้น ในแต่ละด้านอยู่ระหว่าง 0.66 -1.00
- ภายหลังการทดลองใช้ชุดกิจกรรมฯ นักเรียนกลุ่มทดลองมีการเปลี่ยนแปลงคะแนนเฉลี่ยปัจจัยเชิงสาเหตุ และมีพฤติกรรรมการบริโภคอาหารปลอดภัย สูงกว่าก่อนการเข้าร่วมการทดลองและสูงกว่านักเรียนกลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Bell, Maureen, Designing and using a learning package for teaching, Overview. University
of Wollongong Teaching & Learning Journal, 4(1), 1997, 28-32. Retrieved on March
25, 2015. Available at https://ro.uow.edu.au/overview/vol4/iss1/7
Bureau of Policy and strategy, Ministry of Public Health, 2007. Drafting of Thailand Healthy Lifestyle Strategic Plan. Nontaburi.
Faculty of Mass Communication Technology, Rajamangala University of Technology
Thanyaburi. Active Learning KM: Active Learning Handbook. Retrieved on January
25, 2014, Available at http://www.mct.rmutt.ac.th/km/?p=786
Michael JA and Modell HI. (2003). .Active Learning in Secondary and College Science Classrooms: a Working Model of Helping the Learning to Learn. Mahwah, NJ: Erlbaum,
Michael Joel. (2006). Where’s the evidence that active learning works?. Adv Physiol Educ, 30: 159–167, doi:10.1152/advan.00053.2006.
Paranee Ninkron. (2011). Effects of the Program for Behavioral Modification Food Consumption by the Self-Efficacy Theory and Social Support among Students of Primary School Level 5 -6 in BanMor District, Saraburi Province. Master of Public Health thesis. Burapa University.
Rosenstock, I. M. (1974). The health belief model and preventive health behavior. Health Education Monographs, 2(4), 354–386.
Thai Health Foundation. (2014). Appropriate food consumption reduce the Thais’ health problem. Retrieved on February 25, 2015, Available at https://www.thaihealth.or.th/Content/19644
Umaporn Ngammeerit. (2008). Effectiveness of Health Education Program on Snack
Consumption Behavior of Mathayomsuksa 3 Students in Demonstration School
of Ramkhamhaeng University. Master of Science thesis. Kasetsart University.
Weerachai Nolwachai et al. (2015). Food Consumption Behavior of Junior High School Students. Bangkok. Food and Drug Administration. Ministry of Public Health.
