พฤติกรรมนันทนาการของผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรสูงอายุร้อยละ 14.9 ของประชากรทั้งประเทศซึ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตามองค์การสหประชาชาติได้กำหนดไว้จึงมีความจำเป็นในการศึกษาพฤติกรรมนันทนาการเพื่อที่จะได้ดำเนินใช้การเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการในการดูแลผู้สูงอายุให้มีเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้สูงอายุซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการศึกษาพฤติกรรมนันทนาการเพื่อจะได้นำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ในการวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมนันทนาการของผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุของชมรมผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 - 70 ปี ที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เลือกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเลือกจำนวน 12 จังหวัดได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี เลย และบึงกาฬ เลือกอำเภอในแต่ละจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 36 อำเภอ ผู้สูงอายุจากอำเภอ 36 อำเภอ มีจำนวนทั้งสิ้น 753,879 คน กำหนดจำนวนของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรการคำนวณจากการใช้ตารางสำเร็จรูปของ ทาโร ยามาเน่ ระดับความเชื่อมั่น 95 % ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างประมาณ 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามพฤติกรรมนันทนาการของผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย การวิเคราะห์ข้อมูล หาค่าสถิติใช้พื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยแยกตามปัจจัยทางชีวสังคม
ผลการวิจัย พบว่า
จากการสำรวจพฤติกรรมนันทนาการของผู้สูงอายุภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า เพศที่ตอบแบบสำรวจโดยส่วนมากเป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 55.24 ด้านสถานภาพสมรส โดยส่วนมากมีสถานภาพสมรส/คู่ คิดเป็นร้อยละ 69.52 ด้านสถานภาพการอยู่ในครอบครัวโดยส่วนมากเป็นหัวหน้าครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 61.58 มีระดับการศึกษาโดยส่วนมากจบระดับประถมศึกษา คิดเป็นร้อยละ 61.26 โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากไม่มีโรคประจำตัว คิดเป็นร้อยละ 50.79 มีการออกกำลังกาย คิดเป็นร้อยละ 95.24 โดยชนิดของการออกกำลังกายโดยส่วนมากเป็นการเดิน คิดเป็นร้อยละ 62.22 โดยระยะเวลาออกกำลังกาย โดยส่วนมากใช้เวลา 30-60 นาที คิดเป็นร้อยละ 58.41 มีความถี่ของการออกกำลังกายโดยส่วนมาก จำนวน 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 50.48 โดยส่วนมากมีกิจกรรมนันทนาการ คิดเป็นร้อยละ 90.48 กิจกรรมนันทนาการโดยส่วนมาก ดูโทรทัศน์ คิดเป็นร้อยละ 65.71 ออกกำลังกายคิดเป็นร้อยละ30.79 จับกลุ่มคุยคิดเป็นร้อยละ28.57 ตามลำดับระยะเวลาในการทำกิจกรรมนันทนาการ โดยส่วนมากใช้เวลา 30-60 นาที คิดเป็นร้อยละ 72.69และความถี่ของการทำกิจกรรมนันทนาการ โดยส่วนมาก จำนวน 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 45.71
สรุปผลจากการศึกษาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมของผู้สูงอายุในการที่หน่วยงานของรัฐ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบลในการที่จะนำเอาผลการวิจัยไปใช้ในการจัดกิจกรรมนันทนาการให้กับผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างเหมาะสมและตรงตามความต้องการของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. 2559. สถานการณ์ผู้สูงอายุ ปี 2559. (Online). สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2559 จาก http://www.dop.go.th/main/ knowledge_detail.php?id.
กฤตติกา อาภรณ์รัตน์. 2551. ผลของการฝึกก้าวขึ้นลงในน้ำลึกด้วยรองเท้าที่มีต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาและการทรงตัวในผู้สูงวัยเพศหญิงอายุ 56-65 ปี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การกีฬา) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ขวัญดาว กลั่นรัตน์. 2554. การศึกษาพฤติกรรมสุขภาพผู้สูงอายุในเขตภูมิภาคตะวันตกของประเทศไทย. ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา ตลอดชีวิตและการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธราธร ดวงแก้ว และหิรัญญา เดชอุดม. 2550. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ: กรณีศึกษาตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม. นครปฐม: มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครปฐม.
ประณมพร จ๋วงพานิชและกีรติ สายมณี. 2559. โครงการจัดการความรู้ สุขภาพผ่านสื่อและเทคโนโลยีออนไลน์มูลนิธิหมอชาวบ้าน : อยากมีสุขภาพดีต้องมี 3 อ. วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพฯ: บริษัท สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน จำกัด.
พเยาว์ พงษ์ศักดิ์ชาติ และคณะ. 2554. คู่มือการออกกำลังกายแบบรำไทยประยุกต์. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสระบุรี สถาบันบรมราชนก กระทรวงสาธารณสุข.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. 2556.รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ.2556. Online. สืบค้น 2 ธันวาคม 2559 จาก http://www.thaitgri.org/?p=36172
วัชพลประสิทธิ์ ก้อนแก้ว. 2557. พฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่อาศัยในเขตเทศบาลตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี. รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไปวิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. 2555. ข้อมูลสถิติที่สำคัญเกี่ยวกับผู้สูงอายุ (จากสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย : พ.ศ. 2555).
Online. สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2559 จาก http://www.oppo.opp.go.th/info/StatP_290457.
สุทธิพงศ์ บุญผดุง. 2554. ศึกษาเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในท้องถิ่นโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่1. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ-สวนสุนันทา.
สุปราณี แจ้งบำรุง และสิติมา จิตตินันท์. 2559. โครงการจัดการความรู้สุขภาพผ่านสื่อและเทคโนโลยีออนไลน์มูลนิธิหมอชาวบ้าน : อยากมีสุขภาพดีต้องมี 3 อ. วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพฯ: บริษัท สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน จำกัด.
อริสรา สุขวัจนี. 2554. ผู้สูงอายุกับการออกกำลังกาย. เอกสารประกอบการสอน สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อังชัน จึงสกุลวัฒนา. 2550. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุวัยท้ายในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลวังโตนด อำเภอ นายายอาม จังหวัดจันทบุรี. ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นมหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อารดา ธีระเกียรติกำจร. 2554. ปัจจัยที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในเขตเทศบาลตำบลสุเทพอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Caplan, A.1974. A Subjective Measure of Well Being. American Psychologist; 31: 117-121.
Cruz, A. D. 1986. One Loneliness and the Elderly. Journal of Gerontological Nursing. 12(6): 22-27.
King, Oman, Brassington, Bliwise and Haskell.1997. Moderate-intensity exercise and self-rated quality of sleep in older adults. Jan 1; 277(1):32-7.
Morrow, J. R.P., A.W. Jackson, J.G. Disch and D.P. Mood. 2000. Measurement and Evaluation in Human Performance. Illinois: Human Kinetics;
Sobczak .1997. Music and movement to exercise older people. Apr 9-15;93(15):46-9.
Tatsumi .1997. Increased serum interleukin-1 and interleukin-6 in elderly, chronic chizophrenic patients on stable antipsychotic medication. Jun; 1(2): 171–177.
Taylor, J.R.1992. Sagital and Horizontal Plane Movement of Human Lumbar Vertebral Column in Cadavers and in the Liver. Rheumatology and Rehability; 19: 223-232.
Yamane, T. (1973). Statistic: An Introductory Analysis. 3 rd ed. New York: Harper and Row.