วิวัฒนาการการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในปีพ.ศ.2507 รัฐบาลไทยได้จัดตั้งองค์กรทางด้านการกีฬาของประเทศไทย ภายใต้ชื่อองค์การส่งเสริมการกีฬาแห่งประเทศไทย หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การส่งเสริมการกีฬาแห่งประเทศไทย ขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2507 ก็มีแนวคิดริเริ่มที่จะให้มี การแข่งขันกีฬาของจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชีย คือ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5 ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2509 ณ กรุงเทพมหานคร และในปีพ.ศ.2510 ก็ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 5 เขต หลังจากนั้นในปีพ.ศ.2511 และ พ.ศ.2515 ได้เปลี่ยนเป็น 9 เขต และ 10 เขต ตามลำดับ โดยได้กำหนดให้กรุงเทพมหานครเป็นอีก 1 เขต ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับข้อได้เปรียบทางด้านตัวนักกีฬาซึ่งรวมตัวกันอยู่ในกรุงเทพมหานครเป็นส่วนใหญ่
ต่อมาในปีพ.ศ. 2527 ได้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันกีฬาดังกล่าวเป็นการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ โดยเริ่มจากครั้งที่ 17 มีจังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าภาพ และถือว่าเป็นการนำกีฬาดังกล่าวออกภูมิภาคเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นอีก 15 ปี คือ ในปีพ.ศ.2542 ได้กำหนดให้มีการจัดการแข่งขัน 2 ปีต่อครั้ง ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้วางแผนการฝึกซ้อมระยะยาว อีกทั้งเอื้อให้นักกีฬาทีมชาติไทยได้มีเวลาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอีกด้วย และในปีพ.ศ.2549 ได้กลับมาจัดการแข่งขันเป็น 1 ปีต่อครั้งเหมือนที่เป็นมา ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬาตัวแทนภาคได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ และสังคมที่ผกผันในปัจจุบันจึงปรับให้การแข่งขันเป็น 2 ปีต่อครั้ง ในปีพ.ศ.2559 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับชนิดกีฬาที่จัดการแข่งขันก็มีเพิ่มเติมตามลำดับจากครั้งแรกมีเพียง 16 ชนิดกีฬา ปัจจุบันมีถึง 45 ชนิดกีฬา ขณะที่การชิงชัยเหรียญรางวัลก็เพิ่มเติมตามลำดับ คือ จาก 108 เหรียญ เพิ่มเป็น 695 เหรียญ ส่วนจำนวนนักกีฬาเพิ่มขึ้นตามลำดับจาก 716 คน เป็น 16,236 คน ในปีพ.ศ.2561 และเป็นที่น่าสังเกตว่ารูปแบบการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติของประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งในส่วนของห้วงเวลา ชนิดกีฬา จำนวนนักกีฬาและผู้ฝึกสอน และคุณสมบัติของนักกีฬาที่สามารถต่อยอดในการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาในระดับที่สูงขึ้น
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Constitution of the Kingdom of Thailand. (2017). Constitution of the Kingdom of Thailand B.E. 2560
Ministry of Tourism and Sports. (2017). National Sport Development Plan No. 6 (B.E. 2560 – 2021).
Phaiwan Tanthaput. (2000). Basic physical education. Bangkok. Chulalongkorn University Press.
The National Economic and Social Development Plan No. 12. (2017). The 12th National Economic and Social Development Plan (2017 - 2021).
Thanomwong Kritphet. (1995). History of Thai physical education. Bangkok. Chulalongkorn University Press.