ความสัมพันธ์ของความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่วัดโดยวิธีการทดสอบแบบออสตรานด์และไรมิ่งกับการทดสอบก้าวขึ้น-ลงด้วยความสูงของม้าก้าวที่แตกต่างกัน

Main Article Content

อภิษา วัฒนะวิโรฒ
สมพร ส่งตระกูล
สุรีพร อนุศาสนนันท์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่วัด โดยการทดสอบแบบออสตรานด์และไรยิ่งกับการทดสอบก้าวขึ้น-ลง ที่ความสูงของม้าก้าว 13.25 นิ้ว, 14.25 นิ้ว, 15.25 นิ้ว และ 16.25 นิ้ว กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตที่ลงทะเบียนเรียน รายวิชาศึกษาทั่วไป กลุ่ม สร้างเสริมสุขภาพโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบ่งชั้นภูมิจากกลุ่มที่เป็นประชากร แบ่งเป็นนิสิตชาย 30 การ ดําเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 5 ช่วงโดยมีระยะเวลาห่างกัน 48 ชั่วโมง ช่วงที่ 1 ใช้วิธีการทดสอบแบบ ออสตรานด์และไรมิ่งและช่วงที่ 2-5 ใช้วิธีการทดสอบแบบก้าวขึ้น-ลง ที่ความสูงข้างต้นตามลําดับโดย คํานวณหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เป็นรายคู่ โดยวิธีการของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างเพศ ชายที่วัดโดยวิธีการก้าวขึ้น-ลงที่ระดับความสูงของม้าก้าวเท่ากับ 13.25 นิ้ว ไม่มีความสัมพันธ์กับการ ทดสอบแบบออสตรานด์และไรมิ่ง (r = .164, p > .05), ที่ระดับความสูง 14.25 นิ้วมีความสัมพันธ์กับการ ทดสอบแบบออสตรานด์และไรมั่งอยู่ในระดับต่ํา (r = 369, p < .05), ที่ระดับความสูง 15.25 นิ้ว มีความ สัมพันธ์กับการทดสอบแบบออสตรานด์และไรมิ่ง อยู่ในระดับปานกลาง (r = 565, p < .05) และที่ระดับ ความสูง 16.25 นิ้ว มีความสัมพันธ์กับการทดสอบแบบออสตรานด์และไรมั่งอยู่ในระดับสูง (r =,764, p < .05)


โดยสรุปแล้วค่าความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่วัดได้จากการก้าวขึ้น-ลงม้าก้าวที่มีระดับ ความสูง 16.25 นิ้ว มีความสัมพันธ์กับค่าความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่วัดโดยวิธีการทดสอบ แบบออสตรานด์และไรมิ่ง ในระดับสูง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วัฒนะวิโรฒ อ. ., ส่งตระกูล ส., & อนุศาสนนันท์ ส. (2022). ความสัมพันธ์ของความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่วัดโดยวิธีการทดสอบแบบออสตรานด์และไรมิ่งกับการทดสอบก้าวขึ้น-ลงด้วยความสูงของม้าก้าวที่แตกต่างกัน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 7(2), 171–180. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/256468
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชูศักดิ์ เวชแพศย์ และ กันยา ปาละวิวัธน์. (2536), สรีรวิทยาของการออกกําลังกาย, พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.

ณัฐพล ไตรเพิ่ม. (2546). การออกกําลังกายแบบแอโรบิคในปริมาณงานที่แตกต่างกันที่มีผลต่อสมรรถภาพการใช้ออกซิเจน ความจุปอด และเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ประทุม ม่วงมี. (2527), รากฐานทางสรีรวิทยาของการออกกําลังกายและการพลศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บูรพาสาสน์.

ภัทรพร สิทธิเลิศพิศาล (2554). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 518724 การวัดความสามารถในการใช้ออกซิเจนคณะเทคนิคการแพทย์ ภาควิชากายภาพบําบัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,

ราตรี เรืองไทย. (2545). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 183512 การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และการฝึกทางกาย เรื่อง Cardiorespiratory Fitness Test. ภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.

American College of Sports Medicine. (2000). ACSM's guidelines for exercise testing and prescription. Philadelphia, PA: Lippincott,

Williams & Wilkins. ACSM's Guidelines for Exercise Testing and Prescription, 8th ed. Baltimore: Lippincott.

Williams and Wilkins, 2010. Åstrand, PO and Ryhming, I (1954). A nomogram for calculation of aerobic capacity (physical fitness) from pulse rate during submaximal work. J. Appl Physiol., 7: 218-221.

Chatterjee.S, Chatterjee. P, Bandyopadhyay.A. Validity of Queen's College step test for estimation of maximum oxygen uptake in female students. Indian Journal of Medical Research 2005; 121:32-35.

Chatterjee S, Chatterjee P, Mukherjee PS, Bandyopadhyay A, 2004. Validity of Queen's College step test for use with young Indian men. Br J Sports Med; 38: 289-291.

Chin-Mou Liu. (2007). Estimation of vo max: A comparative analysis of post-exercise heart rate and physical fitness index from 3-minute step test National Hsinchu University of Education, Hsinchu,

TAIWAN Getchell and Wayne (1982)Being Fit: A Personal Guide (Wiley Self-Teaching Guides), 1 edition Wiley Publisher.

Katch, V. L., McArdle, W. D. &Katch, F. I. (2011) Essentials of Exercise Physiology (4th ed.). Philadelphia: Wolters Kluwer/Lippincott Williams & Wilkins.

William J. Kraemer et al., (2012) Exercise Physiology Integrating Theory and Application (1st ed.) Philadelphia: Wolters Kluwer/ Lippincott Williams & Wilkins.