การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอําเภอเชียงของ ในฐานะอําเภอชายแดน

Main Article Content

ชยุต จิตดำรงสุนทร

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทการท่องเที่ยวอําเภอเชียงของก่อนและหลังเปิดใช้ สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 (2) พัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยว และ (3) เพื่อเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวอําเภอ เชียงของศึกษาในพื้นที่อําเภอเชียงของเก็บข้อมูลโดยการสํารวจ สัมภาษณ์ ประชุมกลุ่มย่อยและแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง เจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรภาคเอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว จํานวน 424 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยความถีค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และค่าเบียงเบนมาตรฐาน ข้อมูลเชิงคุณภาพ วิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา


ผลการศึกษาสามารถสรุปได้ว่า


(1) อําเภอเชียงของมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากมายแต่ขาดการพัฒนา วัฒนธรรมของชาวไทลื้อ เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเชียงของที่โดดเด่น การท่องเที่ยวข้ามแดนเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวก่อนเปิด ใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 นักท่องเที่ยวข้ามท่าเรือบั๊คไปยังเมืองห้วยทรายเพื่อต่อไปยังเมืองหลวงพระบาง และสิบสองปันนา เมื่อเปิดใช้สะพานแล้วนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามด่านเชียงของแห่งใหม่สะดวกมากขึ้นและ เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ มีการท่องเที่ยวชายแดน (Border Tourism) ทั้งสองฝั่ง ส่วนนักท่องเที่ยวขาเข้า ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางโดยรถยนต์ตามเส้นทาง R3A ผ่านเชียงของเพื่อไปท่องเที่ยวตอนใน ของประเทศ


(2) การพัฒนายุทธศาสตร์ท่องเที่ยวอําเภอเชียงของ ปี 2558-2561 เน้นให้ความสําคัญกับการเชื่อมโยง ในกรอบความร่วมมือภูมิภาคลุ่มน้ําโขงตอนบนและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น สัญลักษณ์ปลาบึกยักษ์ ตลาดการค้าชายแดน ภายใต้บริบท “เชียงของ หนึ่งเมือง สองแบบ”


(3) รูปแบบการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง (LINKED Tourism Model) เหมาะสําหรับการท่องเที่ยว อําเภอเชียงของในฐานะอําเภอชายแดน โดยมีวัฒนธรรมไทลื้อเป็นฐานเชื่อมโยงกับเมืองห้วยทราย เมืองหลวง น้ําทาของลาว เมืองหล้าและเมืองสิบสองปันนาของจีนตอนใต้ ทําให้อําเภอเชียงของเป็นประตูด่านแรกของ การท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ําโขงตอนบน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จิตดำรงสุนทร ช. (2015). การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอําเภอเชียงของ ในฐานะอําเภอชายแดน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 7(3), 77–88. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/256684
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (2550). แนวพื้นที่เศรษฐกิจ (Economic Corridor) และเส้นทางเศรษฐกิจที่สําคัญในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ําโขง (GMS), กรุงเทพฯ : สํานักอาเซียน.

กรมอาเซียน. (2554). การเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Connectivity). กรมอาเซียน.

กระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดเชียงราย (2556). แผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2557-2560. เชียงราย: สํานักงานจังหวัดเชียงราย,

คณะกรรมการบริหารงานอําเภอแบบบูรณาการอําเภอเชียงของ. (2556). แผนพัฒนาอําเภอเชียงของ 4 ปี พ.ศ. 2558-2561, เชียงราย: ที่ทําการปกครองอําเภอเชียงของ .

ณัฐกร วิทิตานนท์. (2556) ความพร้อมของภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดบริการสาธารณะเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในเขตอําเภอชายแดน กรณีศึกษาอําเภอเชียงแสน และอําเภอเชียงของ จังหวัด เชียงราย. แผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) ภายใต้การสนับสนุนของสานักงานกองทุน

สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).

ปนัดดา จีนประชา. (2557) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อสองฝั่งโขงโดยเส้นทางจักรยาน, วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาภูมิภาคลุ่มน้ําโขงและสาละวินศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่,

ทวีป ศิริรัศมี. (2552), การท่องเที่ยวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน,ชุดโครงการนโยบายและแผนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กรุงเทพฯ.

ธงชัย ภูวนาถวิจิตร. (2553) ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ บนเส้นทางยุทธศาสตร์ R3A (เชียงราย-คุนหมิง), ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง.

ภูวนิดา คุณผลิน. (2550). การบริหารการพัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยว กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคําแหง.

มาโนช ชาบรา. (2557) การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนลุ่มน้ําโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่,

มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด. (2553). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการที่ยั่งยืนในลุ่มน้ําโขง 4. เชียงใหม่: สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่