สภาพ ความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครู ในยุคชีวิตวิถีใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร

Main Article Content

พัชรา หงษ์สมดี
ศุภกร ศรเพชร
จารุวรรณ เขียวน้ำชุม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครูในยุคชีวิตวิถีใหม่ (2) ประเมินความต้องการจําเป็นของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครูในยุคชีวิตวิถีใหม่ (3) พัฒนาแนวทางพัฒนาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครูในยุคชีวิตวิถีใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร กลุ่มตัวอย่าง คือ ครู 266 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้เกณฑ์ร้อยละ ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.60 - 1.00 มีค่าอำนาจจำแนก 0.29 - 0.55 มีค่าความเชื่อมั่น 0.92 (2) แบบสอบถามสภาพที่พึงประสงค์ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.60 - 1.00 มีค่าอำนาจจำแนก 0.26 - 0.66 มีค่าความเชื่อมั่น 0.91 (3) แบบสัมภาษณ์ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 1.00 และ
(4) แบบประเมินความเหมาะสม/ความเป็นไปได้ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 1.00 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง


ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพปัจจุบันของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครูในยุคชีวิตวิถีใหม่ โดยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (2) ผลการประเมินความต้องการจำเป็นของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครูในยุคชีวิตวิถีใหม่มีค่าสูงกว่าค่าโดยรวม ได้แก่ ด้านโภชนาการ ด้านการดูแลสุขภาพ จิตใจ ด้านการออกกำลังกาย และด้านการนอนหลับพักผ่อน และ (3) แนวทางพัฒนา 1) ด้านโภชนาการ ครูควรบริโภคอาหารปริมาณเหมาะสมกับสมดุลการใช้พลังงาน อีกทั้งควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ / วัน ตามหลักธงโภชนาการ 2) ด้านการออกกำลังกาย ครูควรออกกำลังกายตามหลัก F.I.T.T. (ความถี่: ความหนัก: เวลา: รูปแบบ) อีกทั้งควรเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างเพียงพอ 3) ด้านการนอนหลับพักผ่อน ครูควรนอนหลับเฉลี่ย 7 - 9 ชั่วโมง / คืน ให้ครบวงจรการหลับอย่างมีคุณภาพ 4) ด้านสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ครูควรเข้าถึงชุมชนที่มีกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย และอาศัยในสภาพแวดล้อมที่ปลอดโปร่ง 5) ด้านนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ โรงเรียนควรส่งเสริมให้ครูเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ครูควรปฏิบัติตามแนวคิดทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพจากหน่วยงานต่าง ๆ 6) ด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพ ครูควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสารเสพติด และศึกษาหาความรู้ด้านสุขภาพในยุคชีวิตวิถีใหม่อย่างสม่ำเสมอ และ 7) ด้านการดูแลสุขภาพจิตใจ ครูควรฝึกฝนตนเองให้คิดในเชิงบวกและสร้างสรรค์ ผลการประเมินแนวทางพัฒนาโดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
หงษ์สมดี พ. ., ศรเพชร ศ. ., & เขียวน้ำชุม จ. (2023). สภาพ ความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของครู ในยุคชีวิตวิถีใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 15(3), 31–44. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/261220
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Bureau of Nutrition. (2020). Dietary Reference intake for Thais 2020. Bangkok: A.V. PROGRESSIVE.

Crumas Chawraingern. (2021). Work - Health Balance of Government Teachers and Educational Personnel of Bangkok Metropolitan Administration. Bangkok: King Mongkut's University of Technology North Bangkok.

Department of Health. (2019). The development plan of department of health B.E. 2020 - 2022. Retrieved from http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER17/DRAWER002/ GENERAL/DATA0002/00002997.pdf

Institute for Population and Social Research, Mahidol University. (2021). Thai health promotion foundation: COVID - 19 the virus that shudders the world. Nakhon Pathom: Amarin Printing and Publishing Public Company.

Jiranuch Ngamyingyod. (2021). Predicting factors of health behavior among primary teacher. Bangkok: Mahidol University.

Onchuma Nunoi. (2012). Factors affecting health promotion behaviors of personnel in Rajabhat Rajanagarindra University (Master’s thesis), Ramkhamhaeng University.

Primprapha Konkaew. (2011). Factors predicting health promoting behaviors among civil servant with dyslipidemia. Phitsanulok: Naresuan University.

Ratchata Kammanee. (2013). Self - care behaviors of health personnel in Sukhirin District, Narathiwat Province. Songkhla: Taksin University.

Sermphan Srichan. (2017). Self - health care behaviors among working - age people in Muang Chacheongsao Municipalty (Master’s thesis), Burapha University.

Teerawat Tussanapirom. (2017). How responsible are we to our own health. Retrieved from https://themomentum.co/health-policy-bad-faith-and-victim-blaming