การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะสำหรับผู้สูงอายุ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะ 2) พัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะ และ 3) ทดลองใช้และประเมินรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะสำหรับผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ จำนวน 70 คน เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามความต้องการจำเป็น แบบประเมินความเหมาะสมรูปแบบฯ แบบประเมินสุขภาพจิต แบบประเมินคุณภาพและความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบฯ และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่า PNI Modified ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้สูงอายุมีความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะ จัดลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านคุณภาพชีวิต ด้านจิตใจ ด้านร่างกาย ด้านการใช้ศิลปะ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน ด้านสุขภาพโดยรวม และด้านสัมพันธภาพทางสังคม ตามลำดับ 2) รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพจิตด้วยกิจกรรมศิลปะสำหรับผู้สูงอายุ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม 3) รูปแบบฯ ดังกล่าว มีคุณภาพตามมาตรฐานการประเมินทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด แสดงว่ารูปแบบฯ ที่พัฒนาขึ้น มีประโยชน์ มีความเหมาะสม สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมสุขภาพจิตให้กับผู้สูงอายุได้จริง และมีระดับความพึงพอใจโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด และ 4) ผู้สูงอายุมีผลการประเมินสุขภาพจิตหลังทดลองใช้รูปแบบฯ ดีกว่าก่อนทดลองใช้รูปแบบฯ ทุกคน แสดงว่า กิจกรรมศิลปะสามารถส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุให้ดีขึ้นได้จริง
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Chutchavarn Wongsaree. (2018). Nurses’ roles in families promoting to slow progressive with early-stage dementia syndrome in an older adult. Huachiew Chalermprakiet Science and Technology Journal, 4(2), 102 – 111.
Department of Mental Health. (2018).Guidelines for taking care of the social and mental health of the elderly to prevent problems mental health. Bangkok: Beyond Publishing.
Health Information System Development Office. (2019). Statistical information. Retrieved from www.hiso.or.th
Leitner. M.J., & Leither, S. F. (2004). Leisure in later life (3rd ed.). Virginia: The Wawerth Press.
Prouls, L. (2008). Strengthening emotional ties through parent-child-dyad art therapy. Jessica Kingdley, Philadelphia.
Pusadee Choocheep. (2021). Effectiveness of a mental health promotion program for self - care behavior of the elderly in Pathumthani Province, Thailand. Journal of Public Health Nursing, 35(2), 109 - 124.
Sedthapoom Thoucharee, Benjapron Rattana, Nopphawan Pornsiri, Kullanan Jongnimitphaiboon, & Morakot Boonsirichai. (2019). Model foe relationship building of elderly in Pracha Niwet Community 2, Phase 3, Klong Prapa, Pak Kret, Nonthaburi. Academic Journal Phanakhon Rajabhat University, 10(1), 90 - 108.
Weiss, J. C. (2007). Expresssive therapy with elders and the disabled touching the heart of life. New Jersey: The Haworth Press.
Yadarat Baljay, Patcharin Sughondhabirom, & Jiraporn Kespichayawattana. (2018). Art therapy for older persons. Journal of Nursing, 25(2), 195 - 209.
