การศึกษากระบวนการผลิตครูพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กับวิทยาลัยกีฬากวางสี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบกระบวนการผลิตครูพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กับวิทยาลัยกีฬากวางสี และเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตครูพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กับวิทยาลัยกีฬากวางสี ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้รับผิดชอบหลักสูตรสาขาพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
วิทยาเขตเชียงใหม่ จำนวน 5 คน และผู้รับผิดชอบหลักสูตรสาขาพลศึกษาของวิทยาลัยกีฬากวางสี จำนวน 5 คน รวมทั้งหมด 10 คน ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการผลิตครูพลศึกษาของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กับ วิทยาลัยกีฬากวางสี นั้น ถึงแม้ว่าเมื่อนักศึกษาจบการศึกษาแล้ว มีคุณสมบัติที่สามารถเข้าสอบ
ใบประกอบวิชาชีพครู และเมื่อสอบผ่านจะได้รับใบประกอบวิชาชีพครูและสามารถสอนวิชาพลศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้เหมือนกันนั้น แต่พบว่ากระบวนการผลิตครูพลศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กับ วิทยาลัยกีฬากวางสีนั้นยังมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าเรียน วิธีการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา ระบบการจัดการศึกษา โครงสร้างหลักสูตร
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และเกณฑ์การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Chiang Mai National Museum. (2021). Main human races. Retrieved from https://www.finearts.go.th/chiangmaimuseum/view/21731
Dinar Boontharm. (2022). Chinese customs in Thai culture. Retrieved from www.thaistudies.chula.ac.th/2018/09/29/ธรรมเนียมจีนในวัฒนธรรม
Guangxi Sports College. (2022a). Rencaipeiyangfangan. Nanning: Guangxi Sports College.
Guangxi Sports College. (2022b). Zhaoshengjianzhang. Retrieved from http://www.gxtznn.com/index/tzyw/109.html
Faculty of Education, Thailand National Sports University Chiang Mai Campus. (2020). Bachelor of education program in physical education (4 years). Chiang Mai: Thailand National Sports University Chiang Mai Campus.
Faculty of Education, Thailand National Sports University Chiang Mai Campus. (2021). Course performance report. Chiang Mai: Thailand National Sports University Chiang Mai Campus.
Jessada Kaewwara, Chatri Maneekoson, & Yuphin Inthaya. (2016). A comparative study of Thai and Japanese primary education curricula. Journal of Graduate Research, 7(2), 167 - 179.
Kiattiwat Watchayakarn, Surang Meranon, & Chatree Kirdtham. (2013). The development of instructional model for physical education for professional teacher students in the institute of physical education. Journal of Graduate Studies Valaya Alongkron Rajabhat University, 7(3), 6.
Somkit Komanee. (2017). The development of decision-making process in learning program selection of Mathayomsuksa 3 Students Prasarnmit Demonstration School (Secondary), Srinakharinwirot University through Guidance Activities. Journal of education, 18(2), 278 - 279.
Thailand National Sports University Chiang Mai Campus. (2022). University admission notification. Retrieved from http://www.ipecm.ac.th/indexh.php
Thanakorn Panyawong. (2022 July, 18). Interview.
Zheng Lan. (2022 August, 8). Interview.
