การศึกษาพฤติกรรมในการประกอบกิจกรรมทางกายของนักศึกษา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่

Main Article Content

ศิริพร สัตยานุรักษ์
ปรียาพัชร ใสแสง

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรมในการประกอบกิจกรรมทางกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นการศึกษาเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ  มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมในการประกอบกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันของนักศึกษา 2) ให้ได้แนวทางและข้อเสนอแนะในการประกอบ กิจกรรมทางกายที่ส่งผลต่อการมีสุขภาวะที่ดีของนักศึกษามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาของกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 - 4 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 400 คน โดยใช้ตารางกำหนดกลุ่มตัวอย่างของทาโร ยามาเน่ (Taro Yamane, 1973) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ด้วยความตรงเชิงเนื้อหาของข้อคำถามอยู่ในช่วงคะแนนระหว่าง 0.67 - 1.00 และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.971 สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา


ผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมการประกอบกิจกรรมทางกายในภาพรวม มีพฤติกรรมอยู่ในระดับปานกลางและด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านพฤติกรรมการนั่งหรือนอนอยู่กับที่อยู่ในระดับมาก สำหรับแนวทางในการประกอบกิจกรรมทางกายที่ส่งผลต่อการมีสุขภาวะที่ดี ประกอบด้วย  การให้ความรู้แก่นักศึกษา การกำหนดเป็นโยบายของมหาวิทยาลัย การจัดสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัย และการใช้ Social network/Social media ในกลุ่มออกกำลังกาย ส่วนข้อเสนอแนะ 1) ควรจัดกิจกรรมทางกายสอดแทรกระหว่างการนั่งเรียนในชั้นเรียนเพื่อการเคลื่อนไหวร่างกาย ทุก ๆ 1 - 2 ชั่วโมง 2) ขอความร่วมมือจากนักศึกษาในการใช้โทรศัพท์มือถือให้น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน 3) สร้างโปรแกรมการออกกำลังกายที่มีความเหมาะสมกับนักศึกษาเพื่อใช้ในการออกกำลังกาย 60 นาทีต่อวัน และ4) มหาวิทยาลัยมีการสำรวจปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดพฤติกรรมเนือยนิ่งของนักศึกษา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนการจัดกิจกรรมทางกาย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สัตยานุรักษ์ ศ. ., & ใสแสง ป. . (2025). การศึกษาพฤติกรรมในการประกอบกิจกรรมทางกายของนักศึกษา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 17(3), 229–242. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/271304
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Bloom B. (1971). Hand book on formative and summative evaluation of student learning. New York: Mc Graw-Hill Book Company.

Chalothorn Siangsai, & Suchitra Sukonthasab. (2016). Factor related physical activities of higher education institutes students in Bangkok Metropolis. Faculty of Sports Science. Chulalongkorn University.

Charoen Krabuanrat. (2013). Physical activity. Journal of Health Education, Physical Education and Recreation, 39(1), 5 - 6.

Department of Health, Ministry of Public Health in Collaboration with the International Health Policy Development Office (IHPP) (2021). Situation of adequate physical activity and sedentary behavior of people Thai. Retrieved from https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/270366

Department of Health, Ministry of Public Health (2022). Revealing the situation in 2022. Retrieved from https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news220466/

Institute for Population and Social Research, Mahidol University. (2019). Thai Health 2019. Nakhon Pathom: Institute for Population and Social Research, Mahidol University.

Jones, T. (2013). Social media and social network. Retrieved from http://www.mediamonitor. in.th/main/knowledge

Kitipong Khatiya. (2017). Physical activity of Maejo University Undergraduates, Chiang Mai Province. Liberal Arts journal, 4(1), 46 - 58.

Ministry of Public Health. (2020). Situation report of NCDs, diabetes, hypertension and related risk factors 2019. Aksorn Graphic and Design Publishing.

Panuphan Laprattanathong. (2020). Physical activity management model, for students of rajamangala university of technology (Doctoral dissertation), Naresuan University.

Thanin Sincharu. (2010). Research and statistical data analysis with SPSS (11th ed.). Bangkok: Business R&D.

Yamane Taro. (1973). Statistics: An introductory analysis. London: John weather hill.