เปรียบเทียบระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจระหว่างกลุ่มที่ได้รับยาเพื่อให้สงบ ตั้งแต่ต้นเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยา ณ หอผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสังขะ
คำสำคัญ:
ได้รับยาเพื่อให้สงบตั้งแต่ต้น, เครื่องช่วยหายใจ, ระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจ, หอผู้ป่วยวิกฤตบทคัดย่อ
โรงพยาบาลสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นโรงพยาบาลชุมชนที่มีผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น การให้ยาสงบแก่ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ แต่ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการให้ยาสงบตั้งแต่แรก (ภายใน 8 ชั่วโมงหลังการใส่ท่อช่วยหายใจ) เทียบกับการไม่ให้ยาสงบหรือให้ยาสงบหลัง 8 ชั่วโมง วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต และอัตราการเสียชีวิตระหว่างกลุ่มที่ได้รับยาสงบตั้งแต่แรกกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยาสงบหรือได้รับยาสงบหลัง 8 ชั่วโมง รูปแบบการศึกษาวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบย้อนหลัง จากผู้ป่วยอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ได้รับการใส่เครื่องช่วยหายใจในหอผู้ป่วยวิกฤตโรงพยาบาลสังขะ กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับยาสงบภายใน 8 ชั่วโมงหลังการใส่ท่อช่วยหายใจ และกลุ่มที่ไม่ได้รับยาสงบหรือได้รับยาสงบหลัง 8 ชั่วโมง
ผลลัพธ์การศึกษา จากผู้ป่วย 187 ราย พบว่ากลุ่มที่ได้รับยาสงบตั้งแต่แรก 98 ราย มีระยะเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจเฉลี่ย 61.66 ชั่วโมง และระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤตเฉลี่ย 111.27 ชั่วโมง ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับยาสงบหรือได้รับยาสงบหลัง 8 ชั่วโมง 89 ราย มีระยะเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจเฉลี่ย 53.14 ชั่วโมง และระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤตเฉลี่ย 99.48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามผลการศึกษานั้นไม่พบความแตกต่างทางสถิติในด้านระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต และอัตราการเสียชีวิต แต่มีแนวโน้มว่าการให้ยาสงบตั้งแต่แรกอาจเพิ่มระยะเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจและระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต การศึกษานี้มีข้อจำกัดด้านขนาดตัวอย่างและความรุนแรงของโรคที่ต่ำ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต โดยเฉพาะการวิจัยแบบ randomized controlled trial เพื่อยืนยันผลลัพธ์และพิจารณาปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษาต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Seo Y, Lee HJ, Ha EJ, Ha TS. 2021 KSCCM clinical practice guidelines for pain, agitation, delirium, immobility, and sleep disturbance in the intensive care unit. Acute and Critical Care. 2022 Feb 28;37(1):1–25.
Barr J, Fraser GL, Puntillo K, Ely EW, Gélinas C, Dasta JF, et al. Clinical practice guidelines for the management of pain, agitation, and delirium in adult patients in the intensive care unit. Crit Care Med. 2013;41(1):263–306.
Thille AW, Rodriguez P, Cabello B, Lellouche F, Brochard L. Patient-ventilator asynchrony during assisted mechanical ventilation. Intensive Care Med. 2006 Aug 1;32(10):1515–22.
Chanques G, Kress JP, Pohlman A, Patel S, Poston J, Jaber S, et al. Impact of Ventilator Adjustment and Sedation–Analgesia Practices on Severe Asynchrony in Patients Ventilated in Assist-Control Mode*. Crit Care Med. 2013 Sep;41(9):2177–87.
Tanaka LMS, Azevedo LCP, Park M, Schettino G, Nassar AP, Réa-Neto A, et al. Early sedation and clinical outcomes of mechanically ventilated patients: a prospective multicenter cohort study. Crit Care. 2014;18(4):R156.
Olsen HT, Nedergaard HK, Strøm T, Oxlund J, Wian KA, Ytrebø LM, et al. Nonsedation or Light Sedation in Critically Ill, Mechanically Ventilated Patients. N Engl J Med. 2020 Mar 19;382(12):1103–11.
Rb L, Hhc C, Larrazabal R. Sedation versus Nonsedation among Critically-Ill Patients Receiving Mechanical Ventilation: A Meta-Analysis and Systematic Review. Jpn J Gastroenterol Hepatol. 2020.
Strom T, Martinussen T, Toft P. A protocol of no sedation for critically ill patients receiving mechanical ventilation: a randomised trial. Lancet. 2010 Feb;375(9713):475–80.