ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการเรียนการสอนในกระบวนวิชาหลักการและเทคนิคการพยาบาลภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่

Abstract

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการเรียนการสอนและประเมินผลในกระบวนวิชาหลักการและเทคนิคการพยาบาลภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ กลุ่มประชากรมี4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) อาจารย์ผู้สอน ภาคทฤษฎี 6 คน 2) อาจารย์ผู้สอนในห้องทดลองปฏิบัติการพยาบาล17 คน 3) อาจารย์ผู้สอนภาคปฏิบัติรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล 17คน และ 4) นักศึกษาพยาบาล 94 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คณะผู้วิจัยได้สร้างขึ้นตามกรอบทฤษฏีของกานเย่และบริกส์ ประกอบด้วย แบบสอบถามอาจารย์ผู้สอนทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ แบบบันทึกการสนทนากลุ่มของนักศึกษาแบบประเมินการเรียนการสอน และแบบสะท้อนการเรียนรู้ เครื่องมือทั้งหมดได้รับการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน คณะผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการงานวิจัยนาน 2 ปี (พค. 2552-มิย. 2554) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
ปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรู้ของนักศึกษาในรายวิชาหลักการและเทคนิคทางการพยาบาลทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ มีปัจจัยเชิงบวก ในด้านที่สนับสนุน เช่น ปัจจัยด้านผู้สอนที่มีประสบการณ์และมีลำดับขั้นตอนการสอนในแต่ละกิจกรรมอย่างเหมาะสม ในการนิเทศงานต้องเป็นกัลยาณมิตร ใจเย็น คอยกระตุ้นให้นักศึกษามีทัศนคติเชิงบวกต่อวิชาชีพ ส่วนด้านผู้เรียนต้องมีความสนใจใฝ่รู้หมั่นทบทวนเนื้อหาวิชาและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ปัจจัยเชิงลบคือ ด้านสื่อที่มีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ บนหอผู้ป่วย ต้องรู้จักการประยุกต์ใช้ และด้านเวลาที่จำกัดด้วยจำนวนหน่วยกิตตามหลักสูตรกำหนด สำหรับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาคทฤษฎีและภาคทดลอง สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 97.87 และเมื่อขึ้นฝึกภาคปฏิบัติ บนหอผู้ป่วย นักศึกษาทุกคนผ่านเกณฑ์การฝึกภาคปฏิบัติ ร้อยละ 100จากผลงานวิจัยนี้สามารถนำไปพัฒนาการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาพยาบาลต่อไป
คำสำคัญ: นักศึกษาพยาบาล การเรียนการสอนทางการพยาบาล วิชาหลักการและเทคนิคการพยาบาล

Abstract
The purpose of this descriptive research is to study the factors that affect teaching andevaluation learning in the theory and practice of Principles and techniques in nursing. The populationshave 4 groups: 1) 6 nurse instructors who taught the course in classroom 2) 17 nurse instructors whotaught in clinical nursing practice 3) 17 nurse instructors who taught in Principles and Techniquesin Nursing Practicum and 4) 94 nursing students. There had 4 research tools that developed fromthe theory of Gange and Briggs: 1) The questionnaire for nursing instructors 2) Focus group form3) Learning evaluation form and 4) Reflection form. Tools were test quality by content validity index(CVI) from 3 experts. The researchers collected data by us for 2 years. Data analyzed by frequency,standard deviation, percentage and content analysis.
The results of study
The results showed that there are both positive and negative factors affecting academicperformance in the nursing principle and techniques of both theory and practice. Experience ofnursing educator and learning styles of nursing students were reported as positive factors. Negativefactors affecting students learning were the inadequate of learning facilities and the limitation ofstudy-time. For achievement in the theory of a specific theory and laboratory test pass percentage97.87 and more practice on the wards to all students through the clinical practice to meet 100percent. This research has implication in improving teaching and learning process for nursing students.
Key words: Nursing Students, Education of Nursing, Principles and Techniques in Nursing