การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ
คำสำคัญ:
การพัฒนาศักยภาพ, ผู้ดูแล, การมีส่วนร่วมของชุมชน, การคัดกรองภาวะสมองเสื่อม, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
ภาวะสมองเสื่อมกำลังเป็นปัญหาที่สำคัญทางสาธารณสุขที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุทั่วโลก การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ และศึกษาความเป็นไปได้ของแผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมสนผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มตัวอย่างในระยะวิเคราะห์สถานการณ์ คือ พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่รับผิดชอบงานดูแลผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานผู้สูงอายุในฝ่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ ประธานชมรมผู้สูงอายุ ผู้นำชุมชน รวมทั้งสิ้นจำนวน 27 คน 2) กลุ่มตัวอย่างในระยะดำเนินงานและระยะประเมินผล คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ จำนวน 27 คน และผู้ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 57 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แนวคำถามการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถามความเป็นไปได้ของการใช้แผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ โดยมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความเป็นไปได้ของการใช้แผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ เท่ากับ 0.92 การศึกษาครั้งนี้ใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชนของ (Cohen & Uphoff, 1980) มีการดำเนินการวิจัย 3 ระยะ คือ ระยะวิเคราะห์สถานการณ์ ระยะดำเนินงาน และระยะประเมินผล
การพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุทำให้ได้แผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ และความเป็นไปได้ของการใช้แผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุมีความเห็นว่า แผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลนี้สามารถใช้ได้ง่าย ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติมีความชัดเจน (เป็นที่เข้าใจตรงกัน) ความเหมาะสมที่จะให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุนำไปใช้ มีความประหยัดในด้านไม่เสียค่าใช้จ่ายในการคัดกรอง ความประหยัดเวลาในการคัดกรอง และมีความเป็นไปได้มีที่จะนำแผนการพัฒนาศักยภาพไปใช้ในทางปฏิบัติกับผู้ดูแลผู้สูงอายุ อยู่ในระดับมาก ในส่วนของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการมีความเห็นว่าแผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลนี้มีความเหมาะสมที่จะให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุนำไปใช้อยู่ในระดับมาก ร้อยละ 60 และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติมีความชัดเจนอยู่ในระดับมาก ร้อยละ 70
ผลการวิจัยในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าควรให้มีการนำแผนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมของผู้สูงอายุนี้สู่ขั้นตอนการนำไปปฏิบัติจริงแก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุและติดตามประเมินผลต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Alzheimer’s Disease International. (2013a). Dementia statistics. Retrieved from http://www.alz.co.uk/ research/statistics.html
Alzheimer’s Disease International. (2013b). Sensual architecture for people with cognitive problems. Paper presented at the 30th International Conference of Alzheimer’s Disease International, Australia. Retrieved from https://www.facebook.com/azthai2013?fref=ts
Aorpichaya, K., and Sirinthorn, S. (2009). Thai people risk dementia. Retrieved from http://www.thaihealth.or.th/Content/12120.html (In Thai)
Aumporn, W. (2015). Development of Hypertension Prevention Program among People at Risk by Community Participation. Nursing Journal Vol 42, 58(4), 12-24. (In Thai)
Butterfoss, F. D. (2006). Process evaluation for community participation. Annual Review of Public Health, 27, 323-340.
Cohen, J. M., & Uphoff, N. T. (1980). Participation’s place in rural development: Seeking clarity through specificity. World Development, 8(3), 213-235. doi:10.1016/0305-750X(80)90011-X
Department of Medical Services. (2009a). Public Health Survey by Physical Examination # 4 (2008-2009). Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)
Department of Medical Services. (2009b). The situation of elderly in Thailand. Retrieved from http://www.moph.go.th/show_hotnew.php?idHot_new=24145 (In Thai)
Institute for Population and Social Research. (2007). Thai Health (Printed at 1). Bangkok: Mahidol University. (In Thai)
National Health Development Plan Board volume 11 (2012 -2516). Ministry of Public Health. (2012). National Health Development Plan in the Eleventh National Economic and Social Development Plan (2012 - 2016). Retrieved from http://bps.ops.moph.go.th/Plan/Plan11.pdf (In Thai)
Narinchai, P. (2004). Participation Basic principles Technical and Case Studies
(Printed at 2). Chiangmai: Sirilak Printing. (In Thai)
Orathai, K. (2009). Public Participation Guide for Local Administrators (Printed at 2). Nonthaburi: King Prajadhipok's Institute. (In Thai)
Orawan, M. (2009). Effects of the discharge planning program with caregivers participation on nursing service satisfaction and self-efficacy in caring for acute diarrhea pediatric patients of caregivers (Independent study of Master of Nursing Science (Pediatric Nursing). Graduate School, Khon Kaen University. Retrieved from http:// tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php? (In Thai)
Paivut, M. and Surin, S. T. (2013). Caregiver Burden among Thai Dementia
Patients’ Caregivers. J Psychiatr Assoc Thailand 2013; 58(1), 101-110. (In Thai)
Samrit, S., and Kanitha, B. (2010). Synthesis of Long-term Care System for the Elderly in Thailand. Bangkok: Foundation for Thai Elderly Research and Development Institute. (In Thai)
Sikri, S., Gakmee, S. and Kanitang, D. (2014). The effects and caregiving burdens of older persons in long-term care based on Thai culture. Retrieved from http://www.hsri.or.th/researcher/ research/new-release/detail/5535 (In Thai)
Sirinthip, K., Krishnan, C., Canlika, C., and Penpitcha, K. M. (2014). Screening of Dementia and Self-Care Burden Among the Elderly in Mae Chan District, Chiang Rai Province. Srinagarind Medical Journal, 29(4), 389-393. Retrieved from http://www.smj.ejnal.com/
e-journal/showdetail/showpdf.php?file_pdf=1888_11_sirintip.pdf&art_id=1888 (In Thai)
Srisuda, L. (2007). Improvement of diabetes mellitus screening system at a primary care unit (Independent study of Master of Nursing Science (Public Health Nursing). Graduate School, Khon Kaen University Retrieved from http://gsmis.gs.kku.ac.th/student/student_detail/475060031 (In Thai)
Technology Promotion Association (Thai Japan). (2009). Stakeholder Analysis. Retrieved from http://www.tpa.or.th/publisher/pdfFileDownloadS/FQ145_p40-43.pdf
Tisana, B. (2511). Teaching Science. Bangkok: Publisher of Chulalongkorn University. (In Thai)
Weena, T. (2011). Community Participation in Community Empowerment: Concepts and Applications (135-156). Bangkok: Denex Inter Corporation. (In Thai)
World Health Organization. (2015). Dementia. Retrieved from http://www.who.int/mediacentre/ factsheets/fs362/en/
Wright, J., Parry, J., Mathers, J. (2005). Participation in health impact assessment: Objectives, methods and core values. Bulletin of the World Health Organization, 83(1), 58-63.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
