การวิเคราะห์สถานการณ์การบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์สถานการณ์, การบริหารความเสี่ยง, การติกเลือดหลังคลอด, โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์บทคัดย่อ
การบริหารความเสี่ยงในระบบบริการสุขภาพมีเป้าหมายเพื่อค้นหา ประเมินผลและดำาเนินการแก้ไข
ความเสี่ยงที่อาจนำาไปสู่อันตรายต่อผู้ป่วย วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่ออธิบายสถานการณ์การบริหาร
ความเสี่ยง ปัญหาและอุปสรรค และแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือด
หลังคลอด โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ผู้เข้าร่วมการศึกษาประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพที่อยู่ในระดับ
ผู้บริหารและคณะกรรมการความเสี่ยงกลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม จำานวน 8 คน พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานใน
หน่วยงานห้องคลอดจาำ นวน 17 คน ผู้ช่วยเหลือคนไขที่ ้ ปฏบิ ตั ิงานในหน่วยงานห้องคลอดจำานวน 9 คน รวบรวมข้อมูล
โดย แบบสอบถามการสัมภาษณ์ และการประชุมระดมสมอง วิเคราะหข์ ้อมูลด้วยสถติ ิเชิงบรรยายและวิเคราะห์เนื้อหา
1. สถานการณ์การบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์อธิบาย
ตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงของอนุวัฒน์ ศุภชุติกุล (2543) มีดังต่อไปนี้
1.1 การค้นหาความเสี่ยง พบว่าระดับการรับรู้การบริหารความเสี่ยงโดยรวมมีระดับสูง
1.2 การประเมินหรือการวิเคราะห์ความเสี่ยง พบว่าระดับการรับรู้การบริหารความเสี่ยงโดยรวมมีระดับสูง
1.3 การจัดการกับความเสี่ยง พบว่าระดับการรับรู้การบริหารความเสี่ยงโดยรวมมีระดับสูง
1.4 การประเมินผล พบว่าระดับการรับรู้การบริหารความเสี่ยงโดยรวมมีระดับสูง
2. ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด ประกอบด้วย การบันทึกเหตุการณ์
ไม่ครอบคลุม และไม่ได้นำาเหตุการณ์มาทบทวนทันที ขาดประสบการณ์ในการประเมินและปฏิบัติตามแนวทาง
การรายงานอุบัติการณ์ในระบบอินทราเน็ตล่าช้า ระบบการรายงานความเสี่ยงในอินทราเน็ตมีความซับซ้อนและ
ไม่เสถียร การฝึกอบรมไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ไม่กล้าที่จะรายงานอุบัติการณ์
3. ข้อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด โดย
การกาำ หนดการทบทวนอบุ ตั ิการณ์อย่างชัดเจนและสมำ่าเสมอ การพัฒนาระบบการรายงานความเสี่ยงของโรงพยาบาล
โดยให้รักษาความลับของผู้รายงาน การส่งเสริมให้มีการจัดอบรมให้ความรู้กับบุคลากรอย่างสมำ่าเสมอ การปรับปรุง
ระบบบันทึกเหตุการณ์และพัฒนาช่องทางการรายงานอบุ ตั ิการณ์ การสร้างทัศนคติเชิงบวกต่อการรายงานอบุ ตั ิการณ์ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดซึ่งผู้บริหารความเสี่ยงในหน่วยงานห้องคลอด คณะกรรมการความเสี่ยงของโรงพยาบาลสามารถนำาไปเป็นข้อมูลในการพัฒนากระบวนการบริหารความเสี่ยงของหน่วยงานห้องคลอดต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Chanpanyasakun, O. (2010). Situation analysis of risk management Pediatric Ward 3, Maharaj Nakorn Chiang Mai Hospital (Independent study, Chiang Mai University). (In Thai)
Department of Health, Ministry of Public Health. (2017). Documents for academic conference.Nonthaburi: Bureau of Health Promotion, Department of Health, Ministry of Public Health. (In Thai)
Durable material work Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (2018). Summary of the monthly issue of durable goods. Chiang Rai: Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (In Thai)
Feinberg, E. C., Molitch, M. E., Enders, L. K., & Peaceman, A. M. (2005). The incidence of sheehan’s syndrome after obstetric hemorrhage. American Society for Reproductive Medicine, 84, 975-979.
Institute and Hospital Accreditation. (2019). HA UPDATE 2019. Bangkok: Hospital Quality Improvement and Accreditation Institute. (In Thai)
Labor room of Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (2016a). A Guide to Practicing Care for High-Risk Mothers. Chiang Rai: Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (In Thai)
Labor room of Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (2016b). Statistical data of labor rooms, yea 1986. Chiang Rai: Chiang Rai Prachanukroh Hospital. (In Thai)
Maternal and Child Health Work, Health Zone 1. (2017). Summary of the meeting of the Maternal and Child Health Development Committee 2017. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)
Mousa, H. A., & Alfirevic, Z. (2007). Treatment for primary postpartum haemorrhage. Cochrane Database of Systematic Reviews, 1, 1-25.
Nantsupawat, R. (2011). Patient Safety Culture and Nursing Outcome among Professional Nurse in Northern Regional Hospitals. Nursing Journal, 38(4). (In Thai)
Pattama, N. (2012). Situation Analysis of Risk Management in Male Medical Ward 1, Lamphun Hospital (Independent study, Chiang Mai University). (In Thai)
Phattharaporn, T. (1990). Situation Analysis. Instruction document Faculty of Nurse Chiang Mai University. Chiang Mai: Chiang Mai University. (In Thai)
Ramanathan, G., & Arulkumaran, S. (2006). Postpartum hemorrhage. International Journal of Gynecology Canada, 28, 967-973.
Supachutikul, A. (2000). Hospital risk management system. Bangkok: Design. (In Thai)
Wattanapong, S., Chitreecheur. J., & Kasatpibal, N. (2016). Effects of multimoda strategies onprevention practices and incidence of blood and body fluid exposures among labour room nurses. Nursing Journal, 43(2). (In Thai)
Willson, C. R. M. (1992). QA/CQI: Strategies in health care quality. Toronto: W.B. Saunders.
World Health Organization. (2007). WHO Recommendations for the prevention of postpartumhaemorrhage. Retrieved from http://whqlibdoc.who.int/hq/2007/ WHO_MPS
Yoochamrat, P. (2013). Situation Analysis of Risk Management in Patients in Hariphunchai MemorialHospital, Lamphun Province (Independent study, Chiang Mai University).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว