ผลของการพัฒนาศักยภาพจิตอาสาด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีการสะท้อนคิดด้านจิตวิญญาณต่อความผาสุกทางจิตวิญญาณของผู้สูงอายุโรคเรื้อรัง
คำสำคัญ:
ความผาสุกทางจิตวิญญาณ, ผู้สูงอายุ, โรคเรื้อรัง, จิตอาสา, กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยการสะท้อนคิดบทคัดย่อ
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังเป็นจำนวนมาก ซึ่งโรคเรื้อรังส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณและการพึ่งพิงบุคคลอื่น ดังนั้น ผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องอาศัยจิตอาสามาช่วยดูแล โดยเฉพาะในมิติด้านจิตวิญญาณ เนื่องจากความผาสุกทางจิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุโรคเรื้อรังสามารถเผชิญกับความเจ็บป่วย และช่วยให้ฟื้นจากการเจ็บป่วยหรือปรับตัวกับความเจ็บป่วยเรื้อรังได้ มีความหวัง มีพลังในการดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างผาสุก การพัฒนาศักยภาพจิตอาสานั้นจึงจำเป็นต้องใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีการสะท้อนคิดด้านจิตวิญญาณ (KM with spiritual Reflection หรือ Soft KM) โดยการวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการพัฒนาศักยภาพจิตอาสาด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีการสะท้อนคิดด้านจิตวิญญาณต่อความผาสุกทางจิตวิญญาณของผู้สูงอายุโรคเรื้อรัง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง ในชุมชนเทศบาลตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จำนวน 34 ราย คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนดสุ่มเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 17 ราย กลุ่มทดลองได้รับการดูแลโดยจิตอาสาที่เข้าร่วมการพัฒนาศักยภาพจิตอาสาโดยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีการสะท้อนคิดด้านจิตวิญญาณจำนวน 4 ครั้ง และกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคล และแบบประเมินความผาสุกทางจิตวิญญาณ เครื่องมือที่ดำเนินการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมพัฒนาศักยภาพจิตอาสา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ independent t -test
ผลการศึกษา พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนความผาสุกทางจิตวิญญาณของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชนระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับการดูแลด้วยจิตอาสา ( =124.65) สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลปกติ ( =118.88) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ โดยจิตอาสาที่จะดูแลผู้สูงอายุนั้น ต้องผ่านกระบวนการ Soft KM6 ขั้นตอน ดังนี้ 1.) การค้นหาความรู้ คุณค่าด้านจิตวิญญาณ 2.) การสร้างและแสวงหาความรู้ 3.) การเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ 4.) การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ 5.) การประมวลผล กลั่นกรององค์ความรู้ 6.) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เอกสารอ้างอิง
Jaiwongpab, S., Soivong, P., Sittisombut, S., & Somrarnyart. M. (2017). Spiritual health among relatives of critically ill patients. Nursing Journal, 44(4) 36-48. (in Thai)
Loskultong, P., & Sritanyarat, W. (2013). Development of long term care service system for community older persons in the context of a secondary carehospital. Journal of Nursing Science & Health,37(2), 128-139. (in Thai)
Mongkhonittivech, N., & Yaemmisri, W. (2016). Factors predicting spiritual well-being among the elderly with chronic illness in Maeyeang municipality, Mueang District, Chiang Rai Province. Journal of Nursing Science & Health,39 (2), 1-11. (in Thai)
Matrakul, M., & Mongkhonittivech, N. (2018). Situation analysis of care by volunteers for elders with chronic diseases in Mae-Ngoen municipality, Chiang Saen District, Chiang Rai Province. Journal of Nursing Science & Health,41(2),69-79.
National Statistical office Thailand. (2014). Census. Retrieved from http://www.nso.go.th/sites
Narin, R., & Meephan, R. (2015). Community health care management innovation: ‘Ar Sa Pun Suk’ (happiness sharing volunteer). Nursing Journal, 42(4), 1-11. (in Thai)
Polit, D. F., & Hungler, B. P. (1999). Nursing research: Principles and methods (6th ed.). Philadelphia: Lippincott.
Prasatkul, P. (2014). Annual Report, Situation of the Thai Elderly, 2013. Nonthaburi: Thai Elderly Research and Development Institute Foundation. (in Thai)
Panphadung, S., Nilmanat, K., & Kitrungrote, L. (2016). Impact of a Buddhism-Based spiritual wellbeing promotion programme on the spiritual wellbeing of family caretakers responsible for hospitalized advanced gynaecological cancer patients. Thai Journal of Nursing Council, 30(1), 16-28.
Promkeawngam, S., & Namwong, A. (2017). The spiritual well-being of community-dwelling Thai older people with chronic illness. Journal of Nursing and Health Care, 35(3), 204-213. (in Thai)
Siripanit, B. (2009). Thai elderly situation. Presented in an academic conference Thai Elderly care Bangkok: Ministry of Public Health.
Sawilo, P. (2007). Fill your life with volunteering. Bangkok: Buddhika network. (in Thai)
Saengsakorn, P. (2011). Synthesis of knowledge about spiritual health in the context of Thai society. Bangkok: Srinakharinwirot University.
Sangchart, B. (2014). Spiritual well-being and good death. Journal of Nursing Science & Health,37(1), 147-156. (in Thai)
Sihapark, S., Chuengsatiansup, K., & Tengrang, K. (2014). The effects and caregiving burdens of older persons in long-term care based on Thai culture. Health system research institute. Retrieved from https://www.hsri.or.th/researcher/research/new-release/detail/5535. (in Thai)
Wirojratana, V., Amnatsatsue, K., Sasat, S. & Malathum, P. (2014). Improvement of healthcare services for dependent elders. Thai Journal of Nursing Council, 29(3), 104-115. (in Thai)
World health organization. (2015). Definition of an older or elderly person. Retrieved from http://www.who.int/healthinfo/survey/ageingdefnolder/en/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว