ผลของการสอนโดยใช้เทคนิคไม่ใช้มือจับต้องต่อความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวของมารดาที่มีบุตรคนแรก
Keywords:
เทคนิคไม่ใช้มือจับต้อง, การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียว, มารดาที่มีบุตรคนแรกAbstract
การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวมีประโยชน์มากต่อมารดาและทารก รวมถึงส่งผลดีต่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติ ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถเพิ่มความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวคือ เทคนิคการให้นมบุตรของมารดา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการสอนโดยใช้เทคนิคไม่ใช้มือจับต้องต่อความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวของมารดาที่มีบุตรคนแรก กลุ่มตัวอย่างคือ มารดาที่มีบุตรคนแรกจำนวน 52 รายที่นอนพักฟื้นภายหลังคลอดในหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวชกรรม และตรวจหลังคลอดที่โรงพยาบาลตติยภูมิจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2556 แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 26 รายจับคู่กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมให้มีลักษณะคล้ายคลึงกันในเรื่องระดับการศึกษา กลุ่มทดลองได้รับการสอนด้วยเทคนิคไม่ใช้มือจับต้อง ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการวิจัย ได้แก่ แผนการสอนโดยใช้เทคนิคไม่ใช้มือจับต้องแบบประเมินเทคนิคการให้นมมารดา และคู่มือการจัดท่าให้นมและการอมหัวนมของบุตร เครื่องมือรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสังเกตปัญหาในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาก่อนจำหน่ายจากโรงพยาบาล แบบสอบถามปัญหาในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาที่ 6 สัปดาห์หลังคลอด และแบบสอบถามความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวของโบว์ชมพู บุตรแสงดี, กรรณิการ์ กันธะรักษา, จันทรรัตน์ เจริญสันติ (2556) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบไคสแควร์
ผลการวิจัยพบว่า มารดากลุ่มทดลองมีความสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวก่อนจำหน่ายจากโรงพยาบาล และที่ 6 สัปดาห์หลังคลอด มากกว่ามารดากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <.01 และ<.001ตามลำดับ
ผลงานวิจัยครั้งนี้ สามารถนำเทคนิคไม่ใช้มือจับต้องไปเป็นแนวทางในการส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียว ซึ่งคาดว่าจะมีประโยชน์ต่อการปฏิบัติการพยาบาลและการศึกษาวิจัยต่อไป
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว