ผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานต่อความรู้เรื่องเพศศึกษา และความคิดเห็นต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
Keywords:
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน, เพศศึกษา, พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศAbstract
การศึกษาวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ ปัญหาเป็นฐานต่อความรู้เรื่องเพศศึกษา และความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ในนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีตามสะดวกเป็นกลุ่มทดลอง 1 ห้อง มีนักเรียน จำนวน 28 คน และ อีก 1 ห้องเป็นกลุ่มควบคุมมีนักเรียน จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการสอนโดยใช้ ปัญหาเป็นฐานและเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลคือแบบวัดที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้นเองโดยผ่านผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่านตรวจสอบความถูกต้อง ได้ค่าความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.9 แบบวัดความรู้เรื่องเพศศึกษามีค่าความ เชื่อมั่น เท่ากับ 0.72 และแบบวัดความคิดเห็นต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศเท่ากับ 0.92 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ paired t-test และ independent t-test
ผลการศึกษา พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยด้านความรู้เรื่องเพศศึกษาของกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองระหว่าง ก่อน และหลังการสอนมีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นทั้งสองกลุ่ม โดยกลุ่มทดลองคะแนนเฉลี่ยระหว่างก่อน และ หลังการสอนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.000) และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนที่เพิ่มขึ้น พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าสูงกว่ากลุ่มควบคุม และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) ค่าคะแนนเฉลี่ย ด้านความคิดเห็นต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองระหว่างก่อน และหลังการสอน มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นทั้งสองกลุ่ม และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองกลุ่มไม่พบความ แตกต่างทางสถิติ
ผลการวิจัยครั้งนี้ บ่งชี้ว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานสามารถสอนความรู้เรื่องเพศศึกษาได้ เป็นอย่างดี ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศควรใช้โจทย์ปัญหาที่อยู่ในความสนใจของผู้เรียนเป็น ตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความคิดวิเคราะห์ในการแก้ไขปัญหา
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว