ปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมสุขภาพผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์วัยแรงงาน ที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี ณ โรงพยาบาลจังหวัดที่ติดชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Abstract

            การวิจัยย้อนหลังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมสุขภาพผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์วัยแรงงานที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี ณ โรงพยาบาลจังหวัดที่ติดชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 138คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปและแบบสัมภาษณ์พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเอดส์ที่ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ของสุวรรณา บุญยะลีพรรณ (2550) พัฒนาจากกรอบแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์มีค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคเท่ากับ .86วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันและสถิติไคสแควร์

            ผลการวิจัยพบว่า1) พฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างโดยรวมอยู่ในระดับดี ( = 3.43, S.D. =  .37) พฤติกรรมสุขภาพที่อยู่ในระดับดีมากได้แก่ด้านการพัฒนาจิตวิญญาณ ( = 3.69, S.D. =  .43)ด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพ( = 3.64 , S.D. =  .27)และด้านการจัดการกับความเครียด (  = 3.56, S.D. =  .55) ส่วนพฤติกรรมสุขภาพที่อยู่ในระดับดี ได้แก่ ด้านโภชนาการ (  = 3.39, S.D. =  .51) ด้านการมีสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (  = 3.31, S.D. =  .50) และด้านการมีกิจกรรมและการออกกำลังกาย (  = 2.97, S.D. =  .68)2) ปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมสุขภาพคือ ระยะเวลาที่รับยาต้านไวรัสเอชไอวี (r = -.283, p = .001)ผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทีมสุขภาพควรให้ความสำคัญในการคงไว้ซึ่ง   การปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพทั้งหกด้านอย่างต่อเนื่องและตระหนักมากขึ้นในกลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นเวลานาน เพราะมีแนวโน้มการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีลดลง